ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ปัญหารอบดวงตาอาจเป็นสิ่งที่กำลังบั่นทอนความมั่นใจใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา รอยเหี่ยวย่นรอบดวงตา หนังตาตก หรือตาลึกโหล บางคนแค่ปัญหาเดียวอาจพอทำเนา แต่กับคนที่โดนปัญหารอบดวงตารุมเร้ามากกว่าหนึ่ง ย่อมสร้างความหนักอกหนักใจไม่น้อย เพราะอาจทำให้ใบหน้าดูโทรม แก่กว่าวัย ไม่สดใส ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือหัตถการที่สามารถแก้ไขปัญหาทั้งหลายที่ว่ามาได้อย่างอยู่หมัด และเห็นผลลัพธ์หลังรักษาทันทีอีกด้วยค่ะ ทว่าก่อนจะตกลงปลงใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บางคนอาจกังวลว่าฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ? ในบทความนี้เราจึงยกข้อควรรู้สำคัญต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาฝากค่ะ

ทำไมต้องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ปัญหาสารพัดรอบดวงตา เป็นเรื่องที่เกิดกับใครก็ได้ โดยเฉพาะใต้ตาดำคล้ำไม่ต่างจากหมีแพนด้า หรือถุงใต้ตาที่เล่นเอาหมดความมั่นใจและจนปัญญาจะแก้ ยิ่งหากปัญหาเหล่านั้นเกิดจากกรรมพันธุ์หรือโรคภูมิแพ้ด้วยแล้ว หลายคนคงถอดใจ นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันก็เป็นอีกปัจจัยใหญ่ ๆ ที่ทำให้รอบดวงตาเกิดปัญหาค่ะ ไม่ว่าจะชอบเผลอขยี้ตาแรง ๆ พักผ่อนน้อย ความเครียดสะสม หรือสาเหตุจากไขมันใต้ตาเกิดการยุบตัวตามช่วงอายุ กลายเป็นเบ้าตาลึกหรือตาลึกโหล ไหนจะริ้วรอยรอบดวงตา และรอยตีนกา หรือหางตาตกอีก ปัจจุบันนี้จึงนับเป็นเรื่องดี ๆ ที่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ หรือบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ?

ฟิลเลอร์ใต้ตา คือการฉีดสารเติมเต็มด้วยกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า HA เข้าไปยังชั้นผิวเพื่อเติมเต็มบรรดาริ้วรอย และแก้ไขปัญหารอบดวงตาทั้งหลาย ซึ่ง HA มีความเข้ากันได้กับร่างกายของมนุษย์ เนื่องจากเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกายของเราอยู่แล้ว เมื่อฉีดไปสักระยะจะค่อย ๆ สลายตัวได้เอง 100% แบบไม่ทิ้งสารตกค้าง ผลลัพธ์ที่ได้คือรอยคล้ำใต้ตาจางลง ถุงใต้ตากระชับขึ้น เบ้าตากลับมาอิ่มเต็ม ริ้วรอยต่าง ๆ ตื้นขึ้น ช่วยให้ใบหน้ากลับมามีชีวิตชีวาและดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง สามารถเห็นผลลัพธ์น่าพึงพอใจได้ทันทีหลังฉีด ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นใด ๆ ให้เสียการเสียงาน มิหนำซ้ำผลลัพธ์ปัง ๆ ยังอยู่ได้นาน ตั้งแต่ 6 – 18 เดือนอีกด้วยค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

  • บรรเทารอยคล้ำใต้ตาให้กลับมาดูสดใส ไม่โทรม
  • แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล อันเกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา
  • ลดปัญหาถุงใต้ตา ทำให้กลับมากระชับมากยิ่งขึ้น
  • ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่นใต้ตา หรือบริเวณหางตาให้เต่งตึง หรือดูตื้นขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายค่ะ เพราะ HA เป็นสารที่พบตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น อีกทั้งต้องทำหัตถการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เนื่องจากใต้ตามีเส้นเลือดและเส้นประสาทที่เกี่ยวข้องกับดวงตาค่อนข้างเยอะ จึงจำเป็นต้องได้รับการประเมินปัญหาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าฉีดตรงจุดไหนจึงจะเหมาะสม ปลอดภัย และแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดค่ะ

ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป และเริ่มพบปัญหารอบดวงตา
  • ผู้ที่ประสบกับปัญหารอยคล้ำใต้ตา หรือขอบตาดำ
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา ตีนกา รอยเหี่ยวย่น
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาถุงใต้ตา หรือใต้ตาหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ผู้ที่ประสบภาวะเบ้าตาลึก ตาโหล ทำให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส
  • ผู้ที่มีปัญหารอบดวงตา ทั้งสาเหตุที่เกิดจากกรรมพันธุ์ หรือโรคภูมิแพ้
  • ผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังรักษา ไม่มีเวลาพักฟื้น
  • ผู้ที่ไม่อยากใช้วิธีผ่าตัด
  • ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานตั้งแต่ 6 – 18 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC

ปริมาณฟิลเลอร์ที่แน่นอนมักแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลค่ะ โดยทั่วไปจะใช้ตั้งแต่  1 – 4 CC เช่น ริ้วรอย รอยคล้ำ ความลึกโหลของดวงตา หรือถุงใต้ตา ซึ่งแพทย์จะช่วยประเมินปริมาณที่เหมาะสมตามรายเคส เพราะการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติที่สุด และต้องไม่ใช้ปริมาณ CC มากเกินไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากเวลายิ้มอาจทำให้ใต้ตาดูบวมไม่เป็นธรรมชาติค่ะ

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้ออย่างละเอียด รวมถึงวิธีการเช็กฟิลเลอร์ของแท้
  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรองอย่างถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือ
  • ดูรีวิวของผู้ใช้บริการจากคลินิกนั้น ๆ และต้องมีรีวิวที่หาได้จากหลายแหล่ง นอกเหนือจากเว็บไซต์ทางการของคลินิก
  • เข้าปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของคลินิกนั้น ๆ เพื่อบอกถึงปัญหาสุขภาพ ประวัติการรักษาทางการแพทย์ ยาที่กินเป็นประจำ ปัญหารอบดวงตาที่ต้องการแก้ไข ซึ่งแพทย์จะช่วยวิเคราะห์ ประเมิน และวางแผนการฉีดฟิลเลอร์ที่เหมาะสม
  • งดกินยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน งดยากลุ่ม NSAIDs และงดวิตามิน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำหัตถกรรม
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนทำการรักษา อย่างน้อย 3 วัน
  • งดนวดหน้า ทำทรีตเมนต์ หรือแว็กซ์ผิวบริเวณใบหน้าก่อนฉีด อย่างน้อย 3 วัน
  • งดออกกำลังกายหนัก ๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดย่างน้อย 24 ชั่วโมง
  • หากมีโรคประจำตัวใด ๆ ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทุกครั้ง
  • งดแต่งหน้าก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนและเพื่อความสะอาด

ฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดแล้วกี่วันเห็นผล ?

จะเห็นผลลัพธ์น่าพึงพอใจหลังฉีดทันทีค่ะ ทั้งริ้วรอยใต้ตาและรอบดวงตาดูตื้นขึ้น รอยคล้ำใต้ตาจางลง ถุงใต้ตาที่เคยหย่อนคล้อยกระชับขึ้น และความลึกดูเต็มขึ้น โดยจะเข้าที่อย่างสมบูรณ์ประมาณ 1 สัปดาห์หลังฉีด

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ค่ะ บางยี่ห้ออาจอยู่ได้ยาวถึง 2 ปี

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจมีอาการบวมหรือระบมจากรอยเข็ม ซึ่งจะค่อย ๆ หายได้เองใน 1 – 3 วัน แต่อาจยังเหลืออาการบวมเพราะเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์ อาการต่าง ๆ จะหมดไปค่ะ

อย่างไรก็ดีหลังฉีดควรดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมด้วยเช่นกัน ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ งดบริโภคบรรดาอาหารรสจัด ของหมักดอง และไม่ควรทำกิจกรรมที่อยู่ใกล้ความร้อน หรือก่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย เช่น การออกกำลังกายหนัก หรือการอบซาวน่า นอกจากนี้สามารถประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการบวมหลังฉีดได้ค่ะ ที่สำคัญห้ามกด นวด คลึง บริเวณที่เพิ่งฉีดฟิลเลอร์โดยเด็ดขาด

ฟิลเลอร์ใต้ตา กับฉีดไขมันใต้ตา อันไหนดีกว่ากัน ?

การฉีดไขมันใต้ตา คือการใช้ไขมันตัวเองมาฉีดเพื่อเติมเต็มบริเวณที่มีปัญหา จึงไม่เกิดอาการแพ้ และไม่ก่ออันตรายแก่ร่างกายอย่างแน่นอน โดยผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานกว่า 1 ปี ทว่าก่อนจะใช้ไขมันได้นั้น ค่อนข้างยุ่งยากหลายขั้นตอน เนื่องจากต้องมีการผ่าตัดดูดไขมันออกมาก่อน ทั้งนี้การฉีดไขมันใต้ตาครั้งแรกอาจไม่เห็นผลลัพธ์ทันที เนื่องจากร่างกายสามารถดึงไขมันไปใช้ได้ จึงมักต้องดูดไขมันหลายครั้ง และฉีดซ้ำ ๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ อีกทั้งต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังทำประมาณ 1 – 2 สัปดาห์

ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แน่นอนว่าไม่มีการผ่าตัด ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นเพียงการฉีดสารเติมเต็ม HA เข้าไปในปริมาณที่เหมาะสม หลังฉีดเห็นผลลัพธ์ทันที และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น เพียงแค่ต้องระมัดระวังและดูแลตัวเองง่าย ๆ นิดหน่อยจนกว่ารอยเข็มจะหาย และจนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่โดยสมบูรณ์ภายใน 1 สัปดาห์

ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาใต้ตาที่เห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน ไม่เสี่ยงเจ็บตัว ไม่ต้องดูดไขมัน และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น แนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากกว่าค่ะ เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยกว่าการฉีดไขมันใต้ตา

บทความอื่น ๆ