รู้จักฟิลเลอร์ พร้อมเตรียมตัวก่อนฉีด เพื่อเสริมความมั่นใจตรงจุด

ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ถือเป็นหนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวงการเสริมความงามในไทยหรือต่างประเทศ เนื่องจากคุณสมบัติซึ่งช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใส และช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก ช่วยยกกระชับ หรือปรับความไม่สมดุลของใบหน้าได้อย่างตรงจุด

ดังนั้นวันนี้ Apex Beauty Clinic จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกันว่าฟิลเลอร์คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ต่างกับ Radiesse ไหม พร้อมทั้งแชร์เทคนิคเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง เพื่อช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยเป็นธรรมชาติ ช่วยเสริมความมั่นใจในแบบที่ต้องการได้อย่างตอบโจทย์มากที่สุด

อ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม

ฟิลเลอร์คืออะไร ทำไมถึงตอบโจทย์

ฟิลเลอร์ คือ

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ซึ่งฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนังหรือชั้นใต้ผิวหนังเพื่อเติมเต็มอย่างตรงจุด แม้ว่าสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในร่างกายของเราอยู่แล้ว แต่ก็อาจผลิตสารตัวนี้ลดน้อยลงได้เมื่อมีอายุมากขึ้น หรือถูกขัดขวางด้วยปัจจัยหลากหลาย 

ดังนั้นเพื่อเป็นการเติมเต็มอย่างล้ำลึก การฉีดฟิลเลอร์จึงเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่ขาดความกระชับ ลดริ้วรอย และเติมเต็มบริเวณที่มีร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา รวมถึงเพิ่มมิติให้กับใบหน้า เช่น ปรับรูปปาก เติมเต็มหน้าผาก เสริมโหนกแก้ม และกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าดูสมดุลและดูเป็นธรรมชาติได้โดยไม่ต้องผ่าตัดทำศัลยกรรม

ฟิลเลอร์นิยมฉีดจุดไหนบ้าง แต่ละจุดให้ผลลัพธ์อย่างไร

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง

ฟิลเลอร์เป็นหนึ่งในวิธีเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์และปรับรูปหน้าได้โดยไม่ต้องผ่าตัด หลายคนจึงเลือกใช้ฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นร่องแก้ม ใต้ตา ริมฝีปาก กรอบหน้า หรือคาง โดยการฉีดฟิลเลอร์แต่ละจุดก็จะให้ผลลัพธ์แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะต่างกันอย่างไร ช่วยแก้ปัญหารูปแบบไหนได้บ้าง ในหัวข้อนี้ Apex Beauty Clinic รวมมาให้แล้ว

  • ฟิลเลอร์ร่องแก้ม การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยเติมเต็มร่องลึกบริเวณร่องแก้ม ทำให้ใบหน้าสดใส แลดูอ่อนเยาว์ โดยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มมักจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ต่อข้าง 
  • ฟิลเลอร์ริมฝีปาก เน้นเติมเต็มความอวบอิ่ม ปรับรูปปากให้มีทรงสวย เหมาะสำหรับผู้ที่มีรูปปากที่ไม่ชัดเจน ปากแห้ง ปากบาง โดยการฉีดฟิลเลอร์ปากมักใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นตำแหน่งซึ่งพบปัญหาความหย่อนคล้อย ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณนี้จึงเป็นวิธีเติมเต็มผิว ปรับผิวใต้ตาให้กระจ่างใส ลดริ้วรอยร่องลึก ช่วยยกกระชับ ทำให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวา นิยมฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 0.5-1 CC ต่อข้าง 
  • ฟิลเลอร์หน้าผาก มักถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาหน้าผากแบน มีรอยยุบ ริ้วรอยลึก หรือหน้าผากไม่มีมิติ โดยฟิลเลอร์จะเข้าไปช่วยทำให้ผิวมีอิ่มฟู เข้ารูปอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมักใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ที่ประมาณ 3-5 CC 
  • ฟิลเลอร์คาง เป็นหนึ่งในหัตถการซึ่งใช้เพื่อปรับรูปหน้าให้มีความเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับคนที่คางสั้น, คางหด, คางเหลี่ยม, คางกว้าง หรือคางไม่สมมาตร มักใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์โหนกแก้ม ช่วยฟื้นฟูและปรับสภาพผิวให้กลับมาแข็งแรง ยกกระชับ เติมเต็มความอิ่มฟูให้โหนกแก้มมีความนูนสวย มีมิติตามต้องการ ซึ่งปริมาณฟิลเลอร์โหนกแก้มที่ใช้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1-2 CC ต่อข้าง 
  • ฟิลเลอร์กรอบหน้า ช่วยให้ใบหน้ามีความเรียวสวย คมชัด เพิ่มเสน่ห์ในแบบที่ต่างจากเดิมได้โดยไม่ต้องผ่าตัด คล้ายคลึงกับคุณสมบัติของ Radiesse เหมาะสำหรับผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด มีความหย่อนคล้อย กรอบหน้าดูอวบหรือบานเกินไป โดยจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 CC
  • ฟิลเลอร์จมูก การฉีดฟิลเลอร์จมูกเหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปทรงจมูกให้โด่งสวย มีความเป็นธรรมชาติ ช่วยแก้ปัญหาจมูกแบน สันจมูกไม่ชัด จมูกมีรอยเว้า หรือปลายจมูกไม่สวย นิยมฉีดฟิลเลอร์จมูกประมาณ 1-2 CC 
  • ฟิลเลอร์ขมับ เป็นวิธีการฉีดฟิลเลอร์ซึ่งเน้นเติมเต็มให้พื้นที่ด้านข้าง (ขมับ) มีความสมดุล เต็มแน่นอย่างมีมิติ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ขมับก็ยังช่วยให้ใบหน้าได้สัดส่วน ช่วยแก้ปัญหาขมับตอบ ยุบ เว้า แบน จนไม่สมดุลกับใบหน้า โดยมักจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2-4 CC 
  • ฟิลเลอร์แก้ม สำหรับฟิลเลอร์แก้มหรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า ‘ฟิลเลอร์แก้มส้ม’ เป็นการฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าแก้มเพื่อเติมเต็มให้แก้มมีความอิ่มฟู นูนสวยคล้ายผลส้ม มีความอ่อนเยาว์ สดใส ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น มักจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1-2 CC ต่อข้าง 

*ปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีดขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้ให้บริการ

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ ที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

อย่างที่หลายคนอาจจะรู้กันดีว่าการฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นหัตถการบำรุงฟื้นฟู และช่วยปรับลุคซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ในหัวข้อนี้เราจะพาทุกคนไปพิจารณาข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ช่วยอะไร เพื่อเป็นข้อมูลให้ทุกคนตัดสินใจกันได้ง่ายขึ้น เช็กเลย

  • การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการปรับลุค เสริมความมั่นใจ แก้ปัญหาองค์รวมโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลถาวร และไม่ต้องพักฟื้นนาน
  • ช่วยให้เห็นผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ทันใจ
  • ให้ผลลัพธ์ที่มีความเป็นธรรมชาติ ตรงตามความต้องการ
  • สามารถเลือกฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งต่าง ๆ ได้หลากหลาย ตามผลลัพธ์ที่ต้องการ
  • ช่วยบำรุง ฟื้นฟู และเติมเต็มเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด 
  • ฟิลเลอร์เป็นสารเติมเต็มซึ่งมีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
  • ใช้เวลาไม่นานในการฉีดฟิลเลอร์ สะดวก รวดเร็ว
  • ในปัจจุบันฟิลเลอร์ราคาจับต้องได้ มีให้เลือกหลายยี่ห้อ
  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องพักฟื้น สามารถทำงานหรือใช้ชีวิตได้ปกติ

ฉีดฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่ คุ้มค่าไหมในระยะยาว

ราคาในการฉีดฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหลายหมื่นบาท แต่ราคาจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นค่าบริการของคลินิกที่เลือกฉีด, ยี่ห้อของฟิลเลอร์, ปริมาณการฉีด, จำนวนครั้ง หรือแม้แต่ตำแหน่งในการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งถ้าถามว่าฉีดแล้วจะคุ้มค่าไหมกับเงินที่จ่ายไป ก็ต้องดูจากปัจจัยของแต่ละคนด้วยว่ามีความคาดหวังสูงแค่ไหน เลือกฉีดฟิลเลอร์ราคาแพงเกินไปหรือเปล่า

ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนก็ตาม ควรสอบถามและเปรียบเทียบฉีดฟิลเลอร์ราคาไหนที่ตอบโจทย์กับตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งที่ Apex Beauty Clinic จะมีราคาในการฉีดฟิลเลอร์เริ่มต้น 12,900 บาทต่อ 1 CC (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ปลอดภัย มั่นใจในผลลัพธ์

ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี

ใครที่ยังไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ หรือกำลังตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก เป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดความสงสัยว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี มีความแตกต่างกันไหม แล้วแบรนด์ Filler แต่ละแบรนด์ให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง ซึ่งในหัวข้อนี้เราได้คัดฟิลเลอร์ 5 ยี่ห้อซึ่งได้รับความนิยมและผ่านการรับรองจากอย. ไทยมาให้แล้ว ตามมาเช็กกันได้เลย

1. Restylane

Restylane Filler คือ ฟิลเลอร์ซึ่งนำเข้าจากประเทศสวีเดน มีประสบการณ์การให้บริการมายาวนานกว่า 20 ปี เป็นฟิลเลอร์ซึ่งมีจุดเด่นหลากหลาย ทั้งเนื้อฟิลเลอร์ที่มีความหนาแน่นสูง ทำให้สามารถเติมเต็มและยกกระชับในบริเวณที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมาพร้อมกับ Optimal Balance Technology ซึ่งทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่นุ่มนวลมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้เป็นฟิลเลอร์ปากหรือฟิลเลอร์แก้มตอบ โดยผลลัพธ์หลังจากฉีดฟิลเลอร์ Restylane จะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นและปัจจัยอื่นประกอบด้วย)

2. Neuramis

Neuramis Filler คือ ฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศเกาหลี มีความโดดเด่นทั้งเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานและความปลอดภัย มีการใช้เทคโนโลยี SHAPE (Stabilized Hyaluronic Acid & Purification Enhancement) ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นและยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึก ยกกระชับ และปรับรูปหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีให้เลือกหลายรุ่น ตอบโจทย์การเติมเต็มเฉพาะจุดได้ครอบคลุม โดยผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ Neuramis จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน หรืออาจอยู่ได้นานถึง 2 ปี (ขึ้นอยู่กับรุ่นและปัจจัยอื่นประกอบด้วย)

3. Juvederm 

Juvederm Filler คือ ฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตโดยบริษัท Allergan ผู้นำด้านนวัตกรรมความงามระดับโลก มีการนำเอาเทคโนโลยี Vycross มาใช้ เพื่อให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ซึ่งมีความเรียบเนียน กระจายตัวได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมด้วยส่วนประกอบของยาชา ช่วยลดความเจ็บและการระคายเคือง ตอบโจทย์การเติมเต็มและปรับรูปหน้าซึ่งมีความสวยเป็นธรรมชาติ คงสภาพผลลัพธ์ยาวนาน เพราะหลังจากฉีดฟิลเลอร์ Juvederm ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12-24 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นและปัจจัยอื่นประกอบด้วย)

4. Belotero

Belotero Filler คือ ฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยในเรื่องการเติมเต็มได้อย่างละเอียดแม่นยำ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยี Cohesive Polydensified Matrix (CPM) ที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหนาแน่นและยืดหยุ่นสูง ทั้งยังกระจายตัวได้ดี ทำให้หลังฉีดฟิลเลอร์ไปแล้วไม่จับตัวเป็นก้อน เข้ากับชั้นผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีความชุ่มชื้น อิ่มฟู แลดูสุขภาพดี โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับรุ่นและปัจจัยอื่นประกอบด้วย)

5. Perfectha

Perfectha Filler คือ ฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส มีความปลอดภัยสูง มาพร้อมกับเทคโนโลยี E-Brid ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นได้ดี ก็ยังช่วยเรื่องความคงตัว ทำให้ฟิลเลอร์ไม่เคลื่อนไปจากตำแหน่งที่ต้องการ ลดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนหรือผิดรูปจากตำแหน่งที่ฉีดในตอนแรก ทั้งยังอุ้มน้ำได้ดี ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น เต่งตึงหลังฉีดฟิลเลอร์ โดยผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่รุ่นและกับปัจจัยอื่นประกอบด้วย)

วิธีตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านอย. ไทย อัปเดตล่าสุด

เพื่อให้ผลลัพธ์จากการฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากที่สุด การเลือกใช้ฟิลเลอร์ซึ่งนำเข้าอย่างถูกต้อง และผ่านการรับรองจากอย. ไทย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตรายจากฟิลเลอร์ปลอม หรือผลข้างเคียงที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ซึ่งวิธีสังเกตว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนมีมาตรฐาน ผ่าน อย. ไทยแล้วบ้าง สามารถเช็กได้ง่าย ๆ ดังนี้

  • ตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากฐานข้อมูลบนเว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th
  • ตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์และการรับรอง โดยการสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันของอย. 
  • สังเกตเลขทะเบียน อย. 13 หลัก ที่แสดงบนกล่องหรือเอกสารกำกับผลิตภัณฑ์
  • เลข Lot ของบรรจุภัณฑ์ฟิลเลอร์จะต้องตรงกันทั้งบริเวณกล่อง ซอง หรือหลอด
  • สามารถติดต่อบริษัทผู้นำเข้าหรือผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยเพื่อยืนยันฟิลเลอร์ที่ใช้ได้

ก่อนฉีดฟิลเลอร์เตรียมตัวอย่างไร ให้พร้อมก่อนฉีด

นอกจากการเลือกฟิลเลอร์หรือใช้บริการกับคลินิกที่ได้คุณภาพ จะช่วยรับประกันผลลัพธ์และความปลอดภัยจากการทำหัตถการได้แล้ว ตัวเราเองก็จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์เอาไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อให้สารเติมเต็มทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การฟื้นฟูรวดเร็ว

  • ศึกษาข้อมูลของการฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ ระยะเวลา รวมถึงฟิลเลอร์ราคาเท่าไหร่บ้างในการฉีดแต่ละครั้ง เพื่อประเมินตัวเองในเบื้องต้น
  • เลือกคลินิกหรือสถานบริการที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์เฉพาะทางผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อมาตรฐานและความปลอดภัยในการทำหัตถการ
  • ปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการ ประเมินปัญหา รวมถึงให้ข้อมูลทางสุขภาพที่จำเป็นต่อการวางแนวทางฉีดฟิลเลอร์
  • หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์, สครับผิว หรือกดสิวในบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาซึ่งมีผลต่อการแข็งตัวของเลือดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ เช่น แอสไพริน (Aspirin) วาร์ฟาริน (Warfarin) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) 
  • หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการไหลเวียนและการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี หรือโสม
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี หรือส่วนประกอบซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองผิว เช่น เรตินอล (Retinol) ไกลโคลิก (Glycolic Acid) หรือ AHA/BHA

วิธีดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น

เพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานโดยไม่สลายไปก่อนเวลา การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงหรือปัจจัยที่อาจเร่งให้ฟิลเลอร์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้ด้วย

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำให้เยอะ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นและช่วยให้ฟิลเลอร์ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัส นวด แกะ เกา หรือกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • หากรู้สึกตึง ระคายเคือง หรือมีอาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์ให้ทำการประคบเย็นแทนประคบร้อน
  • หลีกเลี่ยงสัมผัสกับความร้อนโดยตรง เช่น การทำซาวน่า โยคะร้อน หรืออบไอน้ำ 
  • หลีกเลี่ยงการทำหัตถการซึ่งทำให้เกิดความร้อนบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เช่น เลเซอร์ หรือทรีตเมนต์
  • ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 1-2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ เพื่อป้องกันการอักเสบและอาการบวมรุนแรง 
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวรุนแรง หรือการออกกำลังกายหนัก เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์

เลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ

การเลือกคลินิกหรือสถานบริการที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ ไม่เพียงแต่ยืนยันความปลอดภัย แต่ยังช่วยสร้างความมั่นใจกับคนที่อยากฉีดฟิลเลอร์ได้ ว่าผลลัพธ์จะมีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมความมั่นใจได้จริง แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีที่สุด เรามีเทคนิคง่าย ๆ เพื่อช่วยประเมินในเบื้องต้นมาแชร์ให้แล้ว ดังนี้

  • คลินิกหรือสถานบริการจะต้องมีใบอนุญาตในการประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ตรวจสอบได้
  • คลินิกหรือสถานบริการจะต้องผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นของแท้ นำเข้าอย่างถูกต้อง อุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องมีความสะอาด ถูกสุขลักษณะ เครื่องมือทันสมัย ปลอดภัย 
  • แพทย์ผู้ให้บริการต้องสามารถใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (จากแพทยสภา) มีประสบการณ์ด้านความงาม หรือการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ
  • แสดงราคาและข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์ ชัดเจน มีความโปร่งใส ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ราคาสมเหตุสมผล โปรฟิลเลอร์ไม่เกินโอเวอร์ความเป็นจริง
  • แพทย์ผู้ให้บริการพร้อมให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำทั้งก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ รวมถึงมีการติดตามผล ตลอดจนการดูแลกรณีเกิดปัญหาจากการทำหัตถการ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล ? 

หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ ‘ทันที’ ซึ่งฟิลเลอร์จะเริ่มเนียนไปกับผิว และฟื้นตัวได้ดีมากขึ้นเมื่อผ่านไป 3-7 วัน โดยจะเห็นผลชัดเจน คงที่ มากสุดเมื่อผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าต้องการเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก หรือปรับโครงสร้างผิวให้มีความคมชัดเต็มที่ อาจต้องใช้เวลานานขึ้น (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? 

โดยส่วนใหญ่แล้วฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-24 เดือน หรืออาจมากและน้อยกว่านั้นได้ เนื่องจากระยะเวลาของฟิลเลอร์อาจอยู่ได้นานแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ ปริมาณ CC ตำแหน่ง รวมถึงสภาพผิวของแต่ละคน ที่สำคัญการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีก็เป็นตัวช่วยให้ฟิลเลอร์ไม่สลายหรือสลายช้าได้อีกด้วย

ฟิลเลอร์อันตรายไหม ? 

ฟิลเลอร์ที่ใช้ในประเทศไทยส่วนใหญ่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน ผ่านการรับรองจากหน่วยงานต่างประเทศ และสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรืออย. ของไทย ซึ่งถ้าเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ให้บริการโดยแพทย์เฉพาะทาง ก็สามารถวางใจความปลอดภัยหลังฉีดฟิลเลอร์ได้เลย

ฟิลเลอร์สลายหมดแล้ว เปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ใหม่ได้ไหม ?

สำหรับใครที่ฉีดฟิลเลอร์จนสลายไปแล้วตามระยะเวลา และรู้สึกว่าอยากเปลี่ยนยี่ห้อฟิลเลอร์ก็สามารถทำได้ เนื่องจากสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid เป็นสารที่ไม่ตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัย แต่ควรเว้นระยะไม่ให้ถี่เกินไป หรือปรึกษาแพทย์ผู้ให้บริการเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับตัวเองจะดีที่สุด

สรุป ข้อดีของฟิลเลอร์ และวิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีด

ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิคแอซิด (HA) นิยมฉีดเข้าสู่ผิวหนังบริเวณปาก ใต้ตา กรอบหน้า หรือร่องแก้ม เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แก้ปัญหาริ้วรอย เติมความกระจ่างใส ช่วยยกกระชับ และปรับสมดุลให้ใบหน้าองค์รวมมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ฟิลเลอร์ทำงานได้เต็มที่ ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งควรศึกษาข้อมูล และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงด้วยนั่นเอง 

ซึ่งใครที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์กับคลินิกที่มีมาตรฐาน มั่นใจในผลลัพธ์ ก็สามารถให้ Apex Beauty Clinic ของเราเป็นทางเลือกเพื่อเสริมความมั่นใจกันได้ เพราะเรามีประสบการณ์ยาวนาน ทั้งยังเพียบพร้อมด้วยแพทย์เป็นผู้ดูแลการทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์ ยกระดับความปลอดภัยด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่คัดสรรเพื่อตอบโจทย์ทุกท่านอย่างดีที่สุด สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดของหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ Line : @apexyoung (มี @ ข้างหน้า)

อ้างอิง

Dermal fillers: Overview. (2024, November 19). Mayo Clinic.
https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/dermal-fillers/about/pac-20384660 

Alhusseiny, K. (2023, January 30). Dermal filler injections. Radiopaedia.
https://radiopaedia.org/articles/dermal-filler-injections-1 

Dermal Fillers (Soft Tissue Fillers). (2023, June 7). U.S. Food and Drug Administration.
https://www.fda.gov/medical-devices/aesthetic-cosmetic-devices/dermal-fillers-soft-tissue-fillers