Previous slide
Next slide

Snorelase (เลเซอร์แก้นอนกรน)

จากสถิติพบว่าร้อยละ 20 ของผู้ที่นอนกรนเป็นประจำจะมีการหยุดหายใจร่วมด้วย ผู้ที่มีการหยุดหายใจขณะหลับในระดับรุนแรงน้อย คือ น้อยกว่า 15 ครั้งต่อชั่วโมง จะมีอัตราการเสียชีวิตจากการหยุดหายใจขณะหลับเฉลี่ยร้อยละ 8 หากหยุดหายใจมากกว่า 15 ครั้งต่อชั่วโมง จะมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10-16 และเมื่อเทียบกับคนปกติแล้วจะมีความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงกว่า 2-3 เท่า เสี่ยงต่อโรคหัวใจมากกว่า 2 เท่า และเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมากกว่า 3 เท่า

อาการนอนกรน ปัญหาสำคัญที่นอกจากก่อให้เกิดความรำคาญกับคนที่นอนแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความจำถดถอย มีอาการง่วงมากผิดปกติในเวลากลางวัน และอาจทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อมด้วย วันนี้หมอจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาการนอนกรน และแนะนำวิธีการรักษาอาการนอนกรนแบบไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องมีอุปกรณ์ ใครนอนกรน หรือมีคนข้างๆ นอนกรนจนรบกวน รีบมาดูพร้อมกันเลยค่ะ

อ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม

“เสียงกรน” เกิดขึ้นอย่างไร?

เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้นมีการหย่อนตัวลง ส่งผลให้ทางเดินหายใจตีบแคบ  เมื่อมีลมหายใจผ่าน ก็จะเกิดการสั่นสะเทือนและกระพือ กลายเป็นเสียงกรนขึ้น โดยระดับความดังของเสียงกรนจะขึ้นอยู่กับภาวะการตีบตัน หรือในบางครั้งที่ร่างกายอ่อนเพลีย จนทำให้นอนหลับลึกมากกว่าปกติ กล้ามเนื้อที่หย่อนตัวก็จะปิดกั้นทางเดินหายใจมากขึ้น ทำให้เสียงกรนดังขึ้นตามไปด้วยค่ะ

ชนิดความผิดปกติในการนอนกรน

  1. ชนิดที่ไม่เป็นอันตราย (Simple Snoring) : มีเสียงกรนสม่ำเสมอ ไม่มีหายใจสะดุด
  2. ชนิดที่เป็นอันตราย (Snoring With Obstructive Sleep Apnea) : กรนเสียงดัง สำลัก เสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับได้

SnoreLase เลเซอร์แก้นอนกรนได้อย่างไร?

เป็นการส่งพลังงานลงลึกเข้าสู่กล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น เพื่อทำให้กล้ามเนื้อที่หย่อนตัวกลับมาหดกระชับ โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางภายในช่องปาก ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ทั้งยังช่วยให้อาการกรนลดลงถึง 50% ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก

ความรู้สึกขณะเข้ารับการรักษาอาการนอนกรน

การรักษาจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีต่อครั้ง คนไข้จะรู้สึกอุ่นๆ ภายในปากและคอ อาจมีอาการคอแห้งเล็กน้อย สามารถจิบน้ำระหว่างทำการรักษาได้ 

Snorelase ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล 

หมอแนะนำให้ทำอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไป โดยจำนวนครั้งจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของแต่ละคน และการประเมินของแพทย์

SnoreLase เหมาะกับใครบ้าง

  • ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ
  • ผู้ที่มีปัญหานอนกรนจนส่งผลกระทบต่อคนรอบข้าง
  • ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือ มีปัญหานอนกรนเมื่ออายุมากขึ้น
  • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อทางเดินหายใจส่วนต้นหย่อนตัวลง จนส่งผลให้ทางเดินหายใจตีบแคบ

SnoreLase ไม่เหมาะกับใครบ้าง

  • คนที่เป็นโรคอ้วนและมีน้ำหนักตัวมากเกินไป (แนะนำให้ลดน้ำหนักตัวก่อน)
  • ผู้ที่มีต่อมทอนซิลโต

ทำไมต้อง SnoreLase ที่ Apex Medical Center

เพราะเราเลือกใช้เครื่องมือที่ได้มาตรฐาน อย. ไทย มีความปลอดภัย และให้บริการแบบ Personalized Service โดยแพทย์ผู้ชำนาญทุกเคส

สรุป

SnoreLase นั้นถือว่าเป็นเลเซอร์ลิขสิทธิ์หนึ่งเดียวในโลกที่ได้รับการออกแบบ และพัฒนาให้สามารถส่งพลังงานลงลึกถึงกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้น โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวที่บอบบางภายในช่องปาก ทำให้เกิดการหดกระชับของกล้ามเนื้อ ลดการปิดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้อาการกรนลดลงอย่างชัดเจนตั้งแต่รักษาครั้งแรก ช่วยให้การนอนหลับกลับสู่ภาวะปกติ หลับได้ลึก ไม่เหนื่อยเมื่อตื่นขึ้น ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกสดชื่นหลังตื่นนอนในวันรุ่งขึ้นทันที ไม่มีอาการปากแห้งในตอนเช้า เสียงกรนลดน้อยลงอย่างชัดเจน ที่สำคัญช่วยให้เพื่อนร่วมเตียงมีความสุข หลับฝันดี นอนได้เต็มอิ่มตลอดคืน

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ Apex Medical Center ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองค่ะ

apex, apex medical, เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์, เอเพ็กซ์, เสริมความงาม, คลินิกเสริมความงาม, คลินิก apex สาขา,