เปิดข้อดีโบท็อกกราม เปลี่ยนหน้าเรียวสวย มั่นใจ ไม่ต้องผ่าตัด

ใครที่กำลังปวดหัวกับปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่ ดูไม่สมส่วน แต่ไม่อยากผ่าตัด บทความนี้มีคำตอบ เพราะ Apex Beauty จะพาไปเปิดข้อดีของโบท็อกกรามที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน พร้อมไขข้อสงสัยฉีดโบท็อกกรามดีจริงไหม? เจาะลึกทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการฉีดโบกราม หัตถการปรับกรอบหน้าเรียวโดยไม่ต้องพักฟื้น ด้วยสารสกัดที่ออกฤทธิ์โดยตรงถึงกล้ามเนื้อกราม แก้ปัญหากรามใหญ่ หน้าเหลี่ยม จนขาดความมั่นใจ เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจ ห้ามพลาดเลย!

อ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม

โบท็อกกรามคืออะไร ช่วยให้หน้าเรียวได้ยังไง

โบท็อกกราม คือ โบท็อก หรือ Botulinum toxin ซึ่งสกัดมาจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ที่มีโปรตีนช่วยยับยั้งและลดการทำงานของกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนิยมฉีดเข้าไปบริเวณกล้ามเนื้อกราม เพื่อให้กล้ามเนื้อดังกล่าวดูเรียวและเล็กลงได้ ทำให้ใบหน้ามีความเรียวสวย เข้ารูป ทั้งยังดูมีมิติมากยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม 

โดยสิ่งที่กำหนดว่าโบท็อกอยู่ได้กี่เดือนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกกราม การดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงข้อห้ามหลังฉีดโบ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย

โบท็อกกรามเหมาะกับใคร ตอบโจทย์ปัญหาแบบไหนบ้าง

โบท็อกกรามเป็นหัตถการปรับรูปหน้าที่สะดวกสบาย ใช้เวลาไม่นาน ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น เพราะฉีดได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ที่สำคัญโบท็อกราคาในปัจจุบันก็ยังเข้าถึงง่าย จึงตอบโจทย์กับผู้รับบริการหลากหลาย ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ แม้ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาจากกระดูกกรามใหญ่ก็ตาม ซึ่งผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกกรามได้แก่

  • ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าบาน ดูอ้วน จากกล้ามเนื้อกราม
  • ผู้ที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามเยอะ
  • ผู้ที่ต้องการฉีดหน้าเรียว ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยอย่างเป็นธรรมชาติ 
  • ผู้ที่ต้องการปรับหน้าเรียว ลดขนาดกรามโดยไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรม
  • ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อกรามสองฝั่งไม่สมดุลกัน

โบท็อกกรามอันตรายไหม เลือกฉีดแบบไหนปลอดภัยสุด

สำหรับใครที่อยากปรับรูปหน้า ลดขนาดกราม โบท็อกกรามถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัย เพราะ Botox กรามเป็นสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ผ่านการรับรองจากหน่วยงานต่าง ๆ มากมาย ซึ่งหากเลือกฉีดโบท็อกที่ไหนดีกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ให้บริการโดยแพทย์ ก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้ ว่าจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย และช่วยให้เห็นผลได้จริง

แต่ก็อาจมีบ้างที่การฉีดโบท็อกกรามจะทำให้เกิดผลข้างเคียงรุนแรง เช่น การบวม ช้ำ เจ็บปวดรุนแรง อักเสบ หรือขยับกล้ามเนื้อไม่ได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการแพ้โบท็อก เนื่องจากการใช้ปริมาณโบกรามไม่เหมาะสม ใช้โบลดกรามที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือให้บริการโดยแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ รวมถึงบรรดาหมอกระเป๋าที่ไม่สามารถตรวจสอบได้

ฉีดโบท็อกกรามช่วยให้หน้าเรียวจริงหรือไม่ ทำยังไงให้เห็นผลชัด

โบท็อกกรามสามารถฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ช่วยทำให้หน้าดูเรียวขึ้นได้จริง แต่จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาจากกล้ามเนื้อกรามเยอะ หรือขาดความกระชับ อาจไม่เหมาะกับการฉีดลดกรามโดยตรง ซึ่งถ้าต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน และแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากขึ้น อาจต้องฉีดหน้าหลายจุด หรือต้องทำหัตถการแบบอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น ฉีดโบท็อกกรามร่วมกับโบท็อกลิฟกรอบหน้า ร้อยไหม หรือทำเลเซอร์ ขึ้นอยู่กับความต้องการและดุลยพินิจของแพทย์ผู้ให้บริการ 

เปรียบเทียบ โบท็อกกราม VS ร้อยไหม แบบไหนดีกว่ากัน

แม้ว่าหัตถการยอดนิยมอย่างโบท็อกกรามและการร้อยไหม จะให้ผลลัพธ์ที่มีความใกล้เคียงกัน มักใช้เพื่อยกกระชับ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวยมากยิ่งขึ้น แต่ก็มีความแตกต่างกันในหลายส่วน ดังนั้นการจะตัดสินว่าแบบไหนดีกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งโบท็อกกรามจะเน้นลดขนาดกล้ามเนื้อกราม ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวเล็กอย่างรวดเร็ว 1-2 สัปดาห์ และจะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งระยะเวลาหลังฉีดโบกี่วันเห็นผลอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัญหาเฉพาะจุดของแต่ละคน

ในขณะที่การร้อยไหมไม่ได้ถูกใช้เพื่อแก้ปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ หนา ทำให้หน้าดูบาน แต่จะเน้นไปที่การยกกระชับผิว ซึ่งมีความหย่อนคล้อยให้เข้ารูปมากยิ่งขึ้น ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว คงอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี แต่อาจมีค่าบริการที่สูงกว่าโบท็อกกรามราคาทั่วไป

ฉีดโบท็อกกรามเจ็บไหม ใช้วิธีไหนเพื่อบรรเทา 

การฉีดโบท็อกลดกรามหรือโบท็อกหน้าเรียว ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บมากกว่าการฉีดหน้าในตำแหน่งอื่นมากนัก แต่ก็อาจจะรู้สึกเจ็บหรือตึงได้บ้างเป็นปกติ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางคลินิกจะมีวิธีบรรเทาอาการเจ็บให้ ไม่ว่าจะเป็นการประคบเย็นก่อนและหลังฉีด หรือใช้วิธีแปะยาชาให้รู้สึกผ่อนคลายระหว่างฉีดโบลดกรามได้ด้วย

โบท็อกกรามเลือกฉีดยี่ห้อไหนดี มีคุณภาพ ไม่เสี่ยงดื้อโบ

การเลือกใช้โบท็อกกรามที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นโบท็อกปลอม อาจทำให้เสี่ยงต่อผลข้างเคียงรุนแรง ทำให้การฉีดโบกรามไม่เห็นผล ทั้งยังเสี่ยงต่อภาวะดื้อโบท็อก ซึ่งกระทบต่อการฉีดโบลดกรามในระยะยาว ดังนั้นในหัวข้อนี้เราจึงได้รวบรวม 4 โบท็อกกรามยี่ห้อไหนดี ที่ผ่านการรับรอง และมีความปลอดภัย ตามมาเช็กได้เลย

  • Allergan Botox เป็นยี่ห้อโบท็อกที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความนิยมสูง ผ่านการรับรองจาก FDA ช่วยให้ดูเรียวเล็กลงอย่างธรรมชาติหลังฉีดโบท็อกลดกราม มีผลข้างเคียงน้อย
  • Dysport Botox เป็นโบท็อกกรามยี่ห้อที่มีความโดดเด่นตรงการออกฤทธิ์ไว ให้ผลทันใจ แต่อาจเสียเปรียบตรงระยะเวลาของผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานน้อยกว่ายี่ห้ออื่น
  • Nabota Botox มีประสิทธิภาพการทำงานสูง แม่นยำ ตอบโจทย์ แก้ปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Xeomin Botox เป็นโบท็อกไม่มีส่วนผสมของโปรตีน ลดความเสี่ยงต่ออาการแพ้หรือภาวะดื้อโบท็อก

สามารถสอบถามยี่ห้อโบท็อก หรือรายละเอียดการฉีด Botox กรามกับ Apex Beauty ได้ที่ Line

ฉีดโบท็อกกรามกี่วันเห็นผล ช่วงไหนเห็นผลชัดสุด

โดยปกติแล้วหลังฉีดโบท็อกกรามไปประมาณ 2-3 วัน จะเริ่มเห็นผลลัพธ์และความเปลี่ยนแปลงได้ โดยในช่วงแรกกล้ามเนื้อกรามจะเริ่มคลายตัวและค่อย ๆ ลดขนาดลงตามลำดับ จนให้ผลลัพธ์จากการฉีดกรามที่ชัดเจนและเข้าที่มากสุดในช่วง 7-14 วัน แต่ระยะเวลาก็อาจมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะของแต่ละคน

ฉีดโบท็อกกรามผลลัพธ์อยู่นานแค่ไหน ทำอย่างไรให้อยู่นานขึ้น

หลังฉีดโบท็อกกรามจะช่วยทำให้หน้าเรียวสวยได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณ รวมถึงเทคนิคการฉีดโบกรามของแพทย์แต่ละท่าน ดังนั้นเพื่อช่วยให้โบท็อกกราม สามารถปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยาวนานมากยิ่งขึ้น ก็จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้โบท็อกลดกรามสลายไว เช่น

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อน เช่น การอาบน้ำร้อน การอบไอน้ำหรือซาวน่า
  • หลีกเลี่ยงการทานอาหารหมักดองประมาณ 1-2 วัน หลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงออกกำลังกายหนัก หรือทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดแรงกระแทก
  • หลีกเลี่ยงการนอนทับบริเวณกราม
  • หลีกเลี่ยงการแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานกล้ามเนื้อกรามหนัก เช่น งดการทานอาหารที่มีความเหนียว ต้องใช้แรงเคี้ยว

ฉีดโบท็อกกรามแล้วปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด เป็นเพราะอะไร อันตรายไหม

หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าโบท็อกเป็นสารสกัดที่มีความปลอดภัย ผลข้างเคียงต่ำ ทำไมถึงมีกรณีที่ฉีดโบลดกรามไปแล้วทำให้หน้าแข็ง ปากเบี้ยว ยิ้มได้ไม่สุด ซึ่งปัญหาเหล่านั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย บางครั้งอาจไม่รุนแรงมาก แต่ในบางกรณีก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อในระยะยาวได้ เช่น

  • เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสาร Botulinum Toxin 
  • ฉีดโบท็อกกรามในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อปาก หรือบริเวณรอบข้าง
  • ให้บริการโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ขาดความชำนาญ จนเกิดความผิดพลาด
  • ใช้โบท็อกปลอม ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้โบท็อกทำงานได้ไม่เต็มที่ กระจายตัวอย่างผิดปกติ
  • ใช้ปริมาณโบท็อกเยอะกว่าปกติ ทำให้ตัวยากระจายตัวไปยังกล้ามเนื้อปาก ทำให้ยิ้มแล้วแข็ง ผิดปกติ

สรุปโบท็อกกรามช่วยหน้าเรียวได้ไหม มีข้อดีอะไรบ้าง

โบท็อกกรามเป็นหนึ่งในหัตถการที่ใช้ประโยชน์จากสาร Botulinum Toxin ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อโดยตรง ช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อกรามและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยได้จริง ทั้งยังมีข้อดีซึ่งตอบโจทย์ผู้รับบริการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนฉีดโบลดกรามที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลลัพธ์เร็ว มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย

สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าบาน กล้ามเนื้อกรามหนา ใบหน้าไม่สมดุล สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษา หรือสอบถามรายละเอียดของโบท็อกที่กรามและหัตถการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่

ช่องทางการติดต่อ

อ้างอิง

Drugs.com. (n.d.). What is masseter Botox?. https://www.drugs.com/medical-answers/what-masseter-botox-3577094/ 

Green, M. (n.d.). Face slimming Botox. https://www.michelegreenmd.com/face-slimming-botox

London Lip Clinic. (n.d.). Masseter Botox: About the procedure & safety. https://www.londonlipclinic.co.uk/treatments/masseter-botox-about-procedure-safety