Radiesse vs Sculptra ต่างกันไหม เลือกทำแบบไหนดี?

admin

มีนาคม 16, 2025

หัตถการยอดฮิต ซึ่งเป็นตัวเลือกในการเติมเต็ม และช่วยฟื้นฟูผิวให้มีความอิ่มฟู แลดูอ่อนเยาว์ ยอดนิยมในยุคนี้ คงหนีไม่พ้น Radiesse vs Sculptra สองหัตถการที่โดดเด่นในการฟื้นฟูสภาพผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูสุขภาพดีจากภายใน ทั้งยังให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ แต่ส่วนประกอบและการทำงานของ Radiesse vs Sculptra ต่างกันยังไง ควรเลือกฉีด Radiesse หรือ Sculptra ดี? ในบทความนี้ Apex Beauty พร้อมพาไปหาคำตอบแล้ว

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

Radiesse vs Sculptra คืออะไร ทำไมถึงนิยมใช้ฟื้นฟูผิว ?

Radiesse vs Sculptra ต่างก็เป็นหัตถการที่ช่วยในการเติมเต็มและฟื้นฟูผิว พร้อมปรับโครงสร้างผิวให้ดูอิ่มฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน โดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ชั้นผิวในบริเวณที่ต้องการ ดังนั้นเพื่อให้เข้าใจการทำงานของทั้งสองหัตถการนี้ให้มากขึ้น เรามาทำความรู้จักกับ Sculptra vs Radiesse ว่าคืออะไร และมีคุณสมบัติเด่นอย่างไร มาเช็กกันได้เลย

Radiesse

Radiesse เป็นสารเติมเต็มที่มีส่วนประกอบหลักคือ Calcium Hydroxylapatite (CaHA) ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย มีคุณสมบัติช่วยเติมเต็มผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วจะกระจายตัวในชั้นผิวหนัง พร้อมแทรกตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างเซลล์และเส้นใยต่าง ๆ ในผิว ช่วยเติมเต็มและเสริมโครงสร้างผิว ทำให้ผิวดูเต่งตึง ทั้งยังช่วยเรื่องความยืดหยุ่นของผิว และลดเลือนริ้วรอยร่องลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Sculptra

Sculptra เป็นสารเติมเต็มประเภท Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งจัดว่าเป็นสารสังเคราะห์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable) เมื่อฉีดเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดกระบวนการ Controlled Inflammation หรือการตอบสนองต่อการอักเสบที่ควบคุมได้ ทำให้เกิดการสร้างเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblasts) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ทำหน้าที่สร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวดูกระชับและดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว ปัจจุบันการฉีด Sculptra ราคาให้เลือกใช้บริการได้หลากหลาย อย่างไรก็ตามก่อนตัดสินใจฉีด Sculptra รีวิวเองก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณพิจารณาผลลัพธ์และข้อดี-ข้อเสียก่อนตัดสินใจทำ

Radiesse vs Sculptra เหมือนกันอย่างไร

แม้ Radiesse vs Sculptra จะมีส่วนประกอบและกลไกการทำงานที่ต่างกัน แต่ทั้งสองหัตถการก็มีจุดร่วมบางอย่างที่เหมือนกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูผิวจากภายใน ด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนใบหน้า องค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ หรือแม้แต่วิธีการทำหัตถการ ที่ต้องฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ชั้นผิวหนัง (Dermis) เพื่อการทำงานที่ตรงจุด

Radiesse vs Sculptra ความแตกต่าง ที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจ

สำหรับใครที่มีปัญหาริ้วรอย ผิวไม่กระชับ ดูแก่กว่าวัย หรือต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูกระจ่างใสมากขึ้น Radiesse และ Sculptra ถือเป็นสองหัตถการที่ตอบโจทย์ได้ดี แต่ทั้งสองสารเติมเต็มนี้ก็มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งในเรื่องของการทำงานและผลลัพธ์ที่ได้ ดังนี้

ส่วนประกอบหลัก : Radiesse Filler เป็นสารเติมเต็มที่มีส่วนผสมหลักคือ CaHA ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในกระดูกและฟันของมนุษย์ ในขณะที่ Sculptra จะใช้กรด PLLA ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นมา
กลไกการทำงาน : Radiesse vs Sculptra ต่างมีการทำงานที่เน้นกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน แต่อาจมีขั้นตอนในการทำงานต่างกัน เพราะ Radiesse จะเข้าไปเติมเต็มและกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ให้สร้างคอลลาเจนโดยตรง ในขณะที่ Sculptra จะไปกระตุ้นให้เกิดการสร้าง เซลล์ไฟโบรบลาสต์ เพื่อการสร้างคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้น
บริเวณที่ทำหัตถการ : ตำแหน่งที่นิยมฉีด Radiesse vs Sculptra มีอยู่หลากหลาย ซึ่ง Radiesse เหมาะสำหรับการเติมเต็มในบริเวณที่มีความหย่อนคล้อย เช่น แก้ม กรอบหน้า ลำคอ ขมับ หรือคาง เพื่อยกและปรับหน้าให้คมชัดขึ้นได้ ในส่วนของ Sculptra ฉีดตรงไหนได้บ้างนั้น จะเหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอย และร่องลึกทั่วใบหน้า เช่น ขมับ โหนกแก้ม ร่องแก้ม คาง หรือขมับ

Radiesse vs Sculptra ฉีดร่วมกันได้ไหม มีอันตรายหรือเปล่า

การฉีด Radiesse vs Sculptra สามารถทำร่วมกันได้ แต่ไม่แนะนำให้ฉีดบริเวณเดียวกัน เพราะสารทั้งสองมีกลไกต่างกัน การฉีดใกล้กันอาจทำให้ผลลัพธ์ไม่แน่นอน เสี่ยงต่อการเกิดก้อน อักเสบ หรือสร้างคอลลาเจนไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการฉีด Radiesse vs Sculptra หรือเลือกใช้หัตถการใดหัตถการหนึ่ง ตามคำแนะนำของแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่า หรือศึกษาเกี่ยวกับ Sculptra ข้อเสีย และข้อควรระวังในการฉีด Radiesse ก่อนตัดสินใจ

ผลลัพธ์หลังฉีด Radiesse vs Sculptra อยู่ได้นานไหม

ผลลัพธ์หลังการฉีด Radiesse vs Sculptra สามารถอยู่ได้นาน แต่ระยะเวลาขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ, สภาพผิว, พฤติกรรมการดูแลตัวเอง และการใช้ชีวิตประจำวัน สำหรับ Radiesse จะเห็นผลลัพธ์ด้านการเติมเต็มได้ค่อนข้างรวดเร็ว และคงอยู่ได้ระยะหนึ่งก่อนค่อย ๆ ลดลง ในขณะที่หลังฉีด Sculptra แม้จะไม่เห็นผลทันที แต่ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏ และสามารถคงอยู่ได้นานกว่า

Radiesse vs Sculptra เลือกฉีดแบบไหนดี ให้ผลลัพธ์ตอบโจทย์

ตัวช่วยในการเติมเต็มและยกกระชับอย่าง Radiesse vs Sculptra แม้จะมีส่วนประกอบ หรือคุณสมบัติที่ต่างกัน แต่ก็ล้วนได้รับความนิยม ในด้านของการฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อผิวที่ดูสุขภาพดี เรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอย ต้นเหตุของใบหน้าที่ดูแก่กว่าวัย แต่การเลือกทำหัตถการให้ตอบโจทย์ควรพิจารณาอะไรบ้าง เรารวมมาให้แล้ว ดังนี้

ผลลัพธ์หลังทำหัตถการ : ทั้ง Radiesse และ Sculptra ช่วยฟื้นฟูผิว ลดริ้วรอย ยกกระชับ และปรับรูปหน้า หากต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีและเน้นการยกกระชับ Radiesse Filler อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่สำหรับใครที่ต้องการฟื้นฟูผิวในระยะยาว Sculptra อาจตอบโจทย์ได้มากกว่า
ปัญหาของผู้รับบริการ : หากมีปัญหาผิวหย่อนคล้อย มีร่องลึกที่ต้องการเติมเต็ม หรือต้องการปรับรูปหน้า Radiesse จะช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะจุดได้ดีกว่า ในขณะที่ Sculptra เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยไม่มาก และต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้อ่อนเยาว์ ดูเป็นธรรมชาติ
ระยะเวลาแสดงผล : ระยะเวลาของ Radiesse vs Sculptra แตกต่างกันหากต้องการผลลัพธ์ที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนในช่วงแรก Radiesse อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า เพราะให้ผลในการเติมเต็มที่เห็นได้ทันทีหลังทำ ในขณะที่ Sculptra จะค่อย ๆ ปรับสภาพผิวและกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว ซึ่งต้องอาศัยเวลาและความต่อเนื่องในการฉีดหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

สรุป Radiesse vs Sculptra เลือกแบบไหนตอบโจทย์ ที่ APEX

Radiesse vs Sculptra คือสองหัตถการยอดนิยม สำหรับการฟื้นฟูผิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และปรับผิวหน้าให้ดูมีความอ่อนเยาว์ ซึ่งที่ Apex Beauty เรามีทีมแพทย์ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษา และช่วยประเมินปัญหาผิว เพื่อเลือกฉีด Radiesse หรือ Sculptra ที่เหมาะสมกับแต่ละคนได้ สู่ผลลัพธ์ที่จะทำให้ทุกคนพอใจ และมั่นใจกับผิวของตัวเองได้ในแบบที่ต้องการ สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ Radiesse vs Sculptra หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่

ช่องทางการติดต่อ