แพ้โปรแกรมฟิลเลอร์ อันตรายมากไหม ควรสังเกตอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีรักษา

แพ้ฟิลเลอร์
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

แม้โปรแกรมฟิลเลอร์ จะเป็นหัตถการยอดนิยมที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและปลอดภัยเมื่อทำโดยแพทย์ แต่ในบางรายซึ่งพบได้น้อย อาจเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ได้ เช่น บวมแดงผิดปกติ เจ็บมากกว่าที่ควร หรือมีผื่นขึ้นบริเวณที่ฉีด หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ในบทความนี้ เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่า อาการแพ้โปรแกรมฟิลเลอร์ มีลักษณะอย่างไร อันตรายหรือไม่ และควรรักษาอย่างไรให้ปลอดภัย

ฟิลเลอร์อักเสบ คืออะไร คล้ายกับแพ้ฟิลเลอร์ไหม ?

การฉีดฟิลเลอร์แม้จะเป็นหัตถการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ในบางกรณีอาจเกิดภาวะ “ฟิลเลอร์อักเสบ” ได้ ซึ่งหลายคนมักสับสนว่าเป็นอาการแพ้ฟิลเลอร์ ทั้งที่จริงแล้วเป็นภาวะคนละแบบกัน

ฟิลเลอร์อักเสบ คือ อาการฟิลเลอร์อักเสบ จะเริ่มจาก บวม แดง เจ็บ หรือมีหนอง อันเนื่องมาจากการติดเชื้อ หรือปฏิกิริยาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมของร่างกาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นทันที หรือหลายสัปดาห์หลังฉีด ต้องรีบพบแพทย์ทันที

อาการแพ้โปรแกรมฟิลเลอร์และอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้

อาการแพ้ฟิลเลอร์

แม้ว่าโปรแกรมฟิลเลอร์ จะได้รับการพัฒนาให้ปลอดภัยมากขึ้นและใช้สารเติมเต็มที่ได้มาตรฐาน แต่ก็ยังมีโอกาสเกิด อาการแพ้ฟิลเลอร์ หรือ ผลข้างเคียง ในผู้รับบริการบางรายได้ ควรเลือกโปรแกรมฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรอง เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ Restylane เหมาะสำหรับการเติมเต็มในหลายตำแหน่ง ใช้กันอย่างแพร่หลายในคลินิก โปรแกรมฟิลเลอร์ Neuramis ได้รับความนิยมสูง อยู่ตัวดี และมีหลายรุ่นให้เลือกตามความเหมาะสม

อาการแพ้ฟิลเลอร์

  • บวม แดง ร้อน หรือเจ็บผิดปกติบริเวณที่ฉีด หากอาการรุนแรงกว่าปกติ หรือบวมมากเกิน 3 วัน ควรเข้าพบแพทย์
  • มีผื่นแดงหรืออาการคันทั่วหน้า อาจเป็นสัญญาณของการแพ้สารที่ใช้ในการฉีด
  • เป็นตุ่มนูน แข็ง หรือมีลักษณะคล้ายก้อน โดยเฉพาะหากไม่ยุบลงภายใน 1-2 สัปดาห์ อาจเกิดจากการแพ้หรือตัวสารไม่กระจายตัวดี
  • เกิดการอักเสบ มีหนอง หรือแผลเน่า เป็นอาการที่ควรรีบรักษาโดยด่วน เพราะอาจเป็นการติดเชื้อร่วมด้วย
  • เส้นเลือดอุดตันจากการฉีดผิดตำแหน่ง ส่งผลให้ผิวหนังเปลี่ยนสี มีรอยช้ำผิดปกติ และอาจนำไปสู่เนื้อตายได้ในบางกรณี
  • มีอาการปวดศีรษะหรือวิงเวียน หลังฉีดไม่นาน แม้ไม่ใช่สัญญาณร้ายแรงเสมอไป แต่ก็ควรแจ้งแพทย์เพื่อตรวจสอบ
  • อาการแพ้สะสมภายหลัง (Delayed Allergic Reaction) เช่น ผิวขรุขระเป็นคลื่น หรือมีอาการบวมเป็น ๆ หาย ๆ แม้ฉีดผ่านไปหลายสัปดาห์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้

  • บวมเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
  • อาการนี้มักเป็นปกติ หายได้เองภายใน 1–3 วัน
  • รอยช้ำจากเข็มหรือเส้นเลือดฝอยแตก
    • อาจเกิดบริเวณที่ฉีด โดยเฉพาะคนที่ผิวบาง หายได้ภายใน 5–7 วัน
  • เจ็บหรือระบมเล็กน้อยบริเวณจุดฉีด
    • มักหายเองในเวลาไม่เกิน 2–3 วัน
  • รอยแดงหรือระคายเคืองผิว
    • โดยทั่วไปจะค่อย ๆ จางลงภายใน 1–2 วัน
  • ผิวสัมผัสเป็นก้อนเล็กน้อย
    • ในบางเคสที่ฟิลเลอร์ยังไม่กระจายตัวดี อาจต้องใช้เวลา 7–14 วัน จึงจะเนียนเรียบ หรืออาจนวดเบา ๆ ตามคำแนะนำแพทย์
  • รู้สึกตึงหรือแน่นใต้ผิวบริเวณที่ฉีด
    • เป็นอาการที่อาจเกิดในวันแรก ๆ และจะดีขึ้นภายใน 3–5 วัน

ใครบ้างที่ไม่เหมาะกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ?

แม้โปรแกรมฟิลเลอร์จะเป็นทางเลือกยอดนิยมในการแก้ไขปัญหา เช่น ขอบตาดำ ร่องลึก หรือแก้มตอบ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ แต่ก็มีผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำหัตถการนี้มาเช็คเบื้องต้นกันว่า ใครที่ไม่ควรทำบ้าง

  • ผู้ที่มีประวัติ แพ้สาร Hyaluronic Acid
  • ผู้ที่ มีปัญหาเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด หรือรับประทานยาละลายลิ่มเลือดเป็นประจำ
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากยังไม่มีการวิจัยที่รับรองความปลอดภัยในกลุ่มนี้
  • ผู้ที่กำลังมี การติดเชื้อบริเวณที่ต้องการฉีด เช่น เป็นสิวอักเสบ ผื่น หรือแผลเปิด

สำหรับผู้ที่ไม่มีข้อห้ามและต้องการผลลัพธ์ที่ดูชุ่มชื้น ผิวเนียน ฟื้นฟูจากภายใน อาจเลือกใช้โปรแกรมฟิลเลอร์กลุ่ม Skin Booster อย่างโปรแกรม Belotero Revive ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยม

มีอาการแพ้โปรแกรมฟิลเลอร์ รักษาอย่างไรได้บ้าง

วิธีรักษาอาการแพ้ฟิลเลอร์

หากเกิดอาการแพ้หลังฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ แม้จะพบได้น้อย แต่ก็ไม่ควรละเลย เพราะหากปล่อยไว้อาจลุกลามหรือเกิดผลข้างเคียงระยะยาวได้ การรักษาแต่เนิ่น ๆ โดยแพทย์จะช่วยลดความเสี่ยงและฟื้นฟูผิวให้กลับมาปลอดภัยได้เร็วขึ้น ต่อไปนี้คือแนวทางเบื้องต้นในการดูแลและรักษาเมื่อเกิดอาการแพ้จากฟิลเลอร์

  • รีบพบแพทย์ทันที
    ไม่ควรรอให้อาการลุกลาม แพทย์จะตรวจเช็กอาการเบื้องต้น และวินิจฉัยว่าเกิดจากการแพ้หรือปัจจัยอื่น
  • ใช้ยาแก้แพ้หรือยาต้านการอักเสบ
    เช่น ยาแก้แพ้ชนิดรับประทาน หรือครีมทาบรรเทาอาการบวมแดง แนะนำให้ใช้ตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
  • ประคบเย็นบริเวณที่บวม
    เพื่อลดอาการบวมและปวดในระยะเริ่มต้น โดยประคบเป็นช่วงสั้น ๆ วันละ 2–3 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการกด นวด หรือแตะบริเวณที่ฉีด
    เพราะอาจกระตุ้นให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรืออาการแพ้รุนแรงขึ้น
  • ในบางกรณีแพทย์อาจฉีดสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)
    หากฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นชนิด HA แพทย์สามารถใช้เอนไซม์สลายเพื่อหยุดอาการแพ้ได้
  • เปลี่ยนแบรนด์ฟิลเลอร์หากเคยแพ้ยี่ห้อเดิม
    เช่น หากมีประวัติแพ้ฟิลเลอร์ทั่วไป อาจเลือกใช้แบรนด์ที่มีความบริสุทธิ์สูงและลดโอกาสแพ้ เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ E.P.T.Q. (EPTQ), Juvederm , Neuramis 

หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ลดความเสี่ยงแพ้โปรแกรมฟิลเลอร์

หลังทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใต้ตา ปาก หรือร่องแก้ม สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี โดยเฉพาะเรื่องอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันอาการแพ้โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ปากอักเสบและลดความเสี่ยงต่อการอักเสบหรือบวมช้ำ โดยเฉพาะผู้ที่เลือกใช้ฟิลเลอร์คุณภาพสูงอย่างโปรแกรมฟิลเลอร์ Juvederm ก็ควรให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองหลังหัตถการให้ถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง

  • งดอาหารรสจัด / อาหารเผ็ด อย่างน้อย 3–5 วัน เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบและทำให้เส้นเลือดขยายตัว บวมช้ำมากขึ้น
  • อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า กะปิ ไข่เค็ม ประมาณ 5–7 วัน เพราะอาจกระตุ้นการสะสมสารตกค้าง เพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อหรือแพ้ฟิลเลอร์อักเสบ
  • แอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 7 วัน เพราะแอลกอฮอล์ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เพิ่มโอกาสฟกช้ำ และลดประสิทธิภาพของฟิลเลอร์
  • คาเฟอีน (ชา กาแฟ) ภายใน 48 ชั่วโมงแรก หากดื่มมากไป อาจส่งผลต่อการไหลเวียนเลือดและทำให้ฟื้นตัวช้าลง
  • วิตามินหรืออาหารเสริมบางชนิด (เช่น วิตามิน E, น้ำมันปลา, แปะก๊วย) 5–7 วันก่อนและหลังฉีด เพราะอาจมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ทำให้ช้ำง่าย
  • อาหารทะเล / อาหารที่มีโอกาสกระตุ้นภูมิแพ้ อย่างน้อย 5–7 วัน

สรุป อาการแพ้โปรแกรมฟิลเลอร์ ป้องกันได้

อาการแพ้โปรแกรมฟิลเลอร์เป็นปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารเติมเต็ม ทำให้เกิดอาการบวม แดง คัน หรือเป็นก้อนหลังฉีด ซึ่งอาจเกิดขึ้นทันทีหรือภายหลังก็ได้ หากสงสัยว่ามีอาการแพ้ฟิลเลอร์ ควรปรึกษาแพทย์ทันที

ที่ Apex เรามีโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์พร้อมให้คุณเข้ารับคำปรึกษาโดยตรงกับแพทย์ เพื่อวิเคราะห์ปัญหา แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ และปริมาณ cc ที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ มั่นใจได้ในผลลัพธ์ความงามที่ค่อนข้างที่จะปลอดภัยและตอบโจทย์ตามความต้องการของคุณค่ะ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายได้ที่ช่องทางของเราดังต่อไปนี้

ช่องทางการติดต่อ

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด

*ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับสาขาเพลินจิตเท่านั้น

อ้างอิง

Perman, K. I. (2023, May 25). What happens if I am allergic to injectable fillers? Eyelids & Face.https://eyelidsandface.com/what-happens-if-i-am-allergic-to-injectable-fillers/

Hinsdale Vein & Laser. (n.d.). 5 signs your body reacted negatively after filler injections.https://hinsdaleveinlaser.com/5-signs-your-body-reacted-negatively-after-filler-injections/

Brand, D. (2024, September 28). Understanding allergic reactions to injectable fillers. Brazilian Butt Lift. https://www.brazilianbuttlift.com/blog/allergic-reactions-to-injectable-fillers/

บทความอื่น ๆ