รู้ก่อนฉีด โปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต? ถึงเหมาะสมและเห็นผล

โบท็อกกราม กี่ยูนิต
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

โปรแกรมโบท็อกกรามเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม ซึ่งหนึ่งในคำถามที่หลายคนมักสงสัยคือ ต้องใช้โปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต ถึงจะเห็นผล ? เพราะการทำโปรแกรมฉีดกราม จำเป็นต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งขนาด และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกราม ดังนั้นารใช้จำนวนยูนิตที่เหมาะสมจึงเป็นกุญแจสู่ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ ซึ่ง Apex Beauty พร้อมตอบคำถาม เพื่อจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจหลักการเพื่อเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสมแล้ว

โปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิตถึงจะเหมาะสม

คำถามที่ว่าฉีดโปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต? โดยทั่วไป การฉีดโปรแกรมโบท็อกกรามจะใช้ปริมาณประมาณ 25-50 ยูนิตต่อข้าง หรือรวมสองข้างประมาณ 50-100 ยูนิต ทั้งนี้ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์เป็นรายบุคคล โดยแพทย์จะพิจารณาจากขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกรามของแต่ละบุคคลเป็นหลัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับโครงหน้า ดังนั้นก่อนตัดสินใจว่าฉีดโปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการประเมินอย่างละเอียดก่อนเสมอ

จำนวนยูนิตของโปรแกรมโบท็อก คืออะไร? 

โบท็อกกราม ยูนิต

‘ยูนิต’ (Unit) คือหน่วยวัดที่ใช้บอกปริมาณการออกฤทธิ์ของตัวยาโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum Toxin) ไม่ใช่ปริมาณของเหลว ซึ่งโดยทั่วไปโปรแกรมโบท็อก 1 ขวดมักจะบรรจุ 100 ยูนิต ซึ่งเป็นขนาดพื้นฐานที่นิยมใช้กัน แต่ก็อาจจะมีขนาดอื่น ๆ ได้ เช่น 50 ยูนิต, 200 ยูนิต หรือ 300 ยูนิต ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม การทราบเพียงว่าโปรแกรมโบท็อก 1 ขวดมีกี่ยูนิตอาจยังไม่เพียงพอ เนื่องจากหน่วยยูนิตของแต่ละยี่ห้ออาจไม่เหมือนกัน เช่น โปรแกรม Dysport ที่ต้องใช้จำนวนยูนิตสูงกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เทียบเท่า โปรแกรมโบท็อกกรามทั่วไป ดังนั้นการสอบถามยี่ห้อของโปรแกรมโบท็อกให้ชัดเจนจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อการประเมินปริมาณและค่าใช้จ่ายที่ถูกต้อง

ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกกรามแล้วไม่เห็นผลเกิดจากอะไร?

การฉีดโปรแกรมโบท็อกกรามเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยม แต่ในบางกรณีผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนหรือไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่เรื่องของปริมาณการฉีดโปรแกรม Botox กรามกี่ยูนิต เสมอไป โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่พบได้บ่อย มีดังนี้

  • ปริมาณยูนิตไม่เหมาะสม : เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด หากแพทย์ประเมินปริมาณยูนิตน้อยเกินไปสำหรับขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อกรามที่มาก อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจนหรือไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
  • การดื้อโปรแกรมโบท็อก : เกิดจากการที่ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาต่อต้านตัวผลิตภัณฑ์ มักพบในผู้ที่ฉีดบ่อย หรือเคยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งาน ทำให้การโปรแกรมฉีดกรามครั้งต่อ ๆ ไปไม่ได้ผลเท่าที่ควร
  • เทคนิคการฉีดหรือตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง : แพทย์ผู้ให้บริการเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลลัพธ์ เพราะหากฉีดผิดตำแหน่ง ลึกเกินไปหรือตื้นเกินไป โปรแกรมโบท็อกอาจจะไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเหมาะสม
  • โปรแกรมโบท็อกปลอม : การใช้โปรแกรมโบท็อกที่เป็นของปลอม หรือเสื่อมสภาพจากการเก็บรักษาไม่เหมาะสม จะทำให้ประสิทธิภาพของโปรแกรมโบท็อกลดลงหรือไม่เห็นผลเลย

ฉีดโปรแกรมโบท็อกกรามกี่วันถึงจะเห็นผล?

สำหรับการฉีดโปรแกรมโบท็อกลดกรามกี่วันเห็นผล โดยทั่วไปหลังฉีดจะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในทันที แต่จะเริ่มรู้สึกว่ากล้ามเนื้อกรามนิ่มลงในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จากนั้นจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่าใบหน้าดูเรียวเล็กลงอย่างชัดเจนเมื่อครบ 1-2 เดือนหลังฉีด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตัวยาออกฤทธิ์และกล้ามเนื้อมีขนาดลดลงเต็มที่

โปรแกรมโบท็อกกราม ราคาเท่าไหร่? 

ราคาโปรแกรมโบท็อกกรามที่ APEX ราคา 3,500 บาท/50 ยูนิต ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของตัวยา สำหรับการประเมินว่าต้องใช้โปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต แพทย์จะพิจารณาจากความเหมาะสมของแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

โปรแกรมโบท็อกกราม ต่างจาก โปรแกรมโบท็อกลิฟกรอบหน้ายังไง? 

ความแตกต่างที่สำคัญคือตำแหน่งและเทคนิคการฉีดที่ให้ผลลัพธ์ต่างกัน เนื่องจากโปรแกรมโบท็อกกรามจะเน้นฉีดที่กล้ามเนื้อกรามโดยตรง (Masseter Muscle) เพื่อลดขนาดกราม ทำให้ใบหน้าดูเล็กลง ในขณะที่โปรแกรมโบท็อกลิฟกรอบหน้าจะใช้เทคนิคฉีดตามแนวกรอบหน้าและลำคอ เพื่อยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ทำให้กรอบหน้าดูคมชัดและมีมิติมากขึ้น

ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกกรามยี่ห้อไหนดี 

ฉีดโบท็อกโบท็อกกรามที่ไหนดี

นอกจากคำถามโปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต? หลายคนอาจสงสัยว่าโปรแกรมโบท็อก ยี่ห้อไหนดี เนื่องจากในปัจจุบันมีโปรแกรมโบท็อกจากหลากหลายผู้ผลิตให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และความต้องการของแต่ละบุคคล โดยยี่ห้อที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

  • โปรแกรม Botox Allergan : เป็นยี่ห้อซึ่งมีความบริสุทธิ์ค่อนข้างสูง ออกฤทธิ์ได้ค่อนข้างแม่นยำ เพราะมีการกระจายตัวในวงแคบ เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อกราม
  • โปรแกรม Dysport : มีจุดเด่นที่การกระจายตัวของยาค่อนข้างกว้าง อาจเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับแพทย์ที่ต้องการควบคุมปริมาณยาเพื่อผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
  • โปรแกรม Xeomin : เป็นโปรแกรมโบท็อกโมเลกุลบริสุทธิ์ที่ไม่มีโปรตีนอื่นเจือปน (Zero Protein) ช่วยลดโอกาสการดื้อยาในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่เคยฉีดมาแล้วหลายครั้ง
  • โปรแกรม Nabota : มีจุดเด่นด้านความบริสุทธิ์ของตัวยา ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว ทำให้ผลลัพธ์หลังฉีดดูเป็นธรรมชาติและไม่แข็งตึง

นอกจากจะเลือกยี่ห้อที่ใช่ การเลือกคลินิกที่ไว้วางใจก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าควร ทำโปรแกรมฉีดโบท็อกที่ไหนดี สามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อช่วยในการตัดสินใจได้เลย

การดูแลตนเองหลังทำโปรแกรมฉีดโบท็อกกราม เพื่อให้ผลลัพธ์ยาวนาน

เพื่อให้ผลลัพธ์ของโปรแกรมโบท็อกกรามมีประสิทธิภาพและคงอยู่ได้นานขึ้น การดูแลตนเองหลังการฉีดถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการปฏิบัติตามคำแนะนำ หลีกเลี่ยงข้อห้ามหลังฉีดโปรแกรมโบท็อกอย่างเคร่งครัด จะช่วยให้โปรแกรมโบท็อกกรามออกฤทธิ์ได้เต็มที่และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการนอนราบ : หลังฉีดโปรแกรมโบกราม 4 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยากระจายตัวไปยังกล้ามเนื้อมัดอื่น
  • งดการสัมผัสรุนแรง : งดการนวด กด หรือถูบริเวณที่ฉีดแรงๆ เพราะอาจส่งผลต่อตำแหน่งการออกฤทธิ์
  • เคี้ยวหมากฝรั่ง : หลังฉีดประมาณ 30 นาที แนะนำให้ขยับกล้ามเนื้อกรามเบา ๆ เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่ง ประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ตัวยาถูกดูดซึมเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ดียิ่งขึ้น
  • หลีกเลี่ยงความร้อนและแอลกอฮอล์ : ควรงดกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อนทุกชนิด เช่น ซาวน่า สตรีม และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้โปรแกรมโบท็อกทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • งดการออกกำลังกายหนัก : หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีดมาก ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด

สรุปโปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิต ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ

สำหรับคำถามที่หลายคนสงสัยว่าโปรแกรมโบท็อกกราม กี่ยูนิตจึงจะเห็นผล โดยทั่วไปมักใช้ปริมาณประมาณ 50-100 ยูนิต แต่ปริมาณที่แน่นอนต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินจากขนาดกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล เนื่องจากปัญหาและความต้องการที่แตกต่างกัน นอกจากนั้นผลลัพธ์ที่ชัดเจนอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนยูนิตเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์, เทคนิคของแพทย์ และการปฏิบัติตัวตามข้อแนะนำอย่างเคร่งครัด

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำโปรแกรมโบท็อก หรือสอบถามรายละเอียดหัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ที่

ช่องทางการติดต่อ

 

*ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัท ฯ กำหนด

*ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาทองหล่อ

อ้างอิง

Athena Plastic Surgery. (n.d.). How many units of botox for jaw?.https://athenaplasticsurgery.com/how-many-units-of-botox-for-jaw/

Boey, J. (n.d.). Jaw reduction slimming botox. Aesthetic Clinic. https://sozoclinic.sg/botulinum-toxin/jaw-reduction/

Elite Beauty Medical Spa. (n.d.). How many units for masseter botox?. https://myelitebeauty.com/how-many-units-for-masseter-botox/

บทความอื่น ๆ