กระตุ้นคอลลาเจน คืนผิวอ่อนเยาว์ด้วย Radiesse

radiesse filler
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

ทุกคนต่างทราบกันดีว่าคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกายของเราอย่างมาก โดยเฉพาะกับผิวพรรณภายนอกจนถึงโครงสร้างผิวชั้นลึก ในช่วงวัยเด็กและวัยหนุ่มสาว ร่างกายยังคงมีคอลลาเจนอยู่เต็มเปี่ยม ทำให้ผิวพรรณดูเนียนนุ่ม เปล่งปลั่งเต่งตึง ทว่าพอหลังอายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายก็เริ่มสูญเสียคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสาเหตุของปัญหาผิวร่วงโรย ทั้งริ้วรอย ร่องลึกร่องตื้น ที่เมื่อเกิดขึ้นก็ยากจะคืนสภาพเดิม

ไหนจะผิวหย่อนคล้อย แห้งกร้าน เหี่ยวย่น และหมองโทรม ดังนั้นเพื่อชะลอการเสื่อมของผิว และเพื่อคืนความอ่อนเยาว์อีกครั้ง การกระตุ้นคอลลาเจนจึงกลายเป็นหัตถการอันดับแรก ๆ ในวงการความงามที่หลายคนให้ความสนใจ ซึ่งการฉีด Radiesse นับเป็นสารเติมเต็มอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมค่ะ เพราะนอกจากช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกได้ดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นคอลลาเจน และสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่ได้ดีอีกด้วย

คอลลาเจนจะเริ่มลดลงเมื่อไหร่

คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีปริมาณมากถึง 1 ใน 3 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างผิว เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน กระดูกอ่อน กล้ามเนื้อ ข้อต่อ เล็บ หรือเส้นผม แน่นอนว่าร่างกายเราสามารถผลิตคอลลาเจนได้เองตามธรรมชาติ และมีการสลายตัวเพื่อคงความสมดุล แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ขณะที่อัตราการเสื่อมสลายยังคงอยู่ ซึ่งพออายุ 25 ปีขึ้นไป อัตราการผลิตคอลลาเจนจะลดลงประมาณ 1 – 1.5% ต่อปี นี่จึงเป็นสาเหตุของริ้วรอย และการเสื่อมสภาพของผิวพรรณ รวมถึงอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย

สัญญาณที่บ่งบอกว่าคอลลาเจนมีปริมาณลดลง และไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ได้แก่ ริ้วรอย ร่องลึก ร่องตื้น ความหย่อนคล้อย ผิวแห้งกร้าน แก้มตอบ ตาลึกโหล ส่งผลต่อกระดูกและข้อต่อ ทำให้ปวดตามข้อ มวลกล้ามเนื้อลดลง เส้นผมขาดความชุ่มชื้น เปราะขาดง่าย เหงือกและฟันมีปัญหา นอกจากนี้ยังส่งผลต่อหลอดเลือด ซึ่งจะกระทบต่ออวัยวะที่มีหลอดเลือดผ่าน เช่น อาการตาแห้ง ปวดศีรษะ หรือผื่นบนผิวหนัง เป็นต้น

วิธีชะลอการสูญเสียคอลลาเจน

ถึงแม้การสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยับยั้งได้ แต่ก็ยังมีวิธีปฏิบัติตัวง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ที่สามารถช่วยชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจน และยังช่วยส่งเสริมให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ดีขึ้นด้วยค่ะ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ วิธีพื้นฐานสุด ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้อย่างแน่นอน ซึ่งน้ำสะอาดนับเป็นองค์ประกอบสำคัญเพื่อความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว และช่วยสร้างคอลลาเจน โดยควรดื่มน้ำที่ปริมาณ 2 – 3 ลิตรต่อวัน ดังนั้นใครที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำหรือมักลืมดื่ม คงต้องหันมาฝึกให้เป็นนิสัยแล้วค่ะ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาลสูง เนื่องจากน้ำตาลสามารถส่งผลให้คอลลาเจนเสียรูปร่าง และไม่ยืดหยุ่นตามแบบที่ควรจะเป็น แม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ควรบริโภคในปริมาณน้อยเข้าไว้จะดีที่สุด
  • กินโปรตีนให้เพียงพอ โปรตีนช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ โดยโปรตีนได้จากการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ไข่ นม และธัญพืชชนิดต่าง ๆ
  • เติมวิตามินซี สำหรับวิตามินซีนอกจากช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยชะลอการเสื่อมสลายของคอลลาเจนได้ดีแล้ว ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดีอีกด้วยค่ะ ซึ่งวิตามินซีมีมากในผักผลไม้ เช่น ส้ม แอปเปิลแดง หรือเบอร์รี่ชนิดต่าง ๆ
  • กินอาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินเอจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) หรือเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจนนั่นเองค่ะ แหล่งอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอ ได้แก่ เนื้อสัตว์ นม ไข่ และผักที่มีสีเขียวเข้มกับสีเหลืองส้ม เช่น แคร์รอต มะละกอสุก หรือผักบุ้ง

เห็นได้ว่าการรักษาสมดุลของคอลลาเจนในร่างกาย เป็นเรื่องทั่วไปที่ทำได้ไม่ยาก และยังเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพองค์รวมด้วย อย่างไรก็ตามหากร่างกายเริ่มสูญเสียคอลลาเจน หรือสูญเสียไปมากพอสมควรแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้ผิวพรรณกลับคืนสู่ความอ่อนเยาว์ด้วยการทำเพียงแค่บริโภคอาหารที่ช่วยเสริมคอลลาเจน หรือปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์บางอย่าง เพราะคนส่วนใหญ่ย่อมอยากเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้ โดยใช้เวลาไม่นานและต้องมีประสิทธิภาพ

ดังนั้นในอุตสาหกรรมความงามจึงถือกำเนิด และพัฒนานวัตกรรมหลากหลายออกมาเพื่อช่วยเติม ชะลอ และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ให้แก่ผิว ในรูปแบบที่ปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งพาศัลยกรรม ซึ่ง Radiesse ถือเป็นหนึ่งในผู้ช่วยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งในไทยและต่างประเทศค่ะ

กระตุ้นคอลลาเจน คืนผิวอ่อนเยาว์ง่าย ๆ ด้วย Radiesse

Radiesse เป็นทั้งสารเติมเต็มแบบฉีดเข้าสู่ผิว และยังเป็น Collagen Biostimulator ที่มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการผลิตคอลลาเจนใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นของ Radiesse คือสารประกอบแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (CaHA: Calcium Hydroxylapatite Microsphere) หรือ CaHA ซึ่งมีลักษณะเป็นอนุภาคทรงกลมสม่ำเสมอ ขนาด 25 – 45 ไมครอน

หลังฉีดจะเติมวอลลุ่มผิวและทำให้ริ้วรอยจางลงทันที จากนั้นตัวยาจะเข้าจับกับไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งก็คือเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจน และกระตุ้นให้ชั้นผิวผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใหม่ เป็นการฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงอย่างล้ำลึก มีความยืดหยุ่น กระชับขึ้น เรียบเนียนขึ้น และเปล่งปลั่งกระจ่างใส แลดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลหลังฉีดไปแล้ว 3 – 4 สัปดาห์ และชัดเจนที่สุดในเดือนที่ 3

ทั้งนี้ Radiesse สามารถฉีดได้หลากหลายจุดบนร่างกาย ทั้งบนใบหน้า เช่น ขมับ ร่องแก้ม หน้าแก้ม ร่องน้ำหมาก ลำคอ เนินอกสำหรับผู้หญิง และหลังมือ เพื่อเพิ่มความตึงกระชับ แก้ปัญหารอยเหี่ยวย่น ทว่าไม่เหมาะฉีดบริเวณริมฝีปาก ใต้ตา หรือ T-Zone ค่ะ

ฉีด Radiesse เห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่

การฉีด Radiesse อาจต้องฉีดตั้งแต่ 1 – 3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล หากต้องฉีดต่อเนื่องจะเว้นระยะห่างทุก 1 เดือน โดยจะเห็นผลเรื่องความกระชับ และริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ทันทีหลังฉีด ต่อจากนั้น Radiesse จะกระตุ้นให้เกิดกระบวนการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ใต้ชั้นผิวเรื่อย ๆ ผิวจึงได้รับการฟื้นฟู แลดูอ่อนเยาว์ลง โดยจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงราว 2 – 4 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลชัดเจนที่สุดในเดือนที่ 3 ซึ่ง Radiesse สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน 1 ปี

อาการข้างเคียงหลังฉีด Radiesse

อาการข้างเคียงหลังฉีด Radiesse โดยทั่วไปไม่มีอะไรน่ากังวลค่ะ มักเป็นรอยแดง ช้ำ ปวดหรือเจ็บจากรอยเข็ม ซึ่งจะหายเองภายใน 2 – 3 วัน ทั้งนี้ไม่ควรจับ เกา หรือถูในบริเวณที่เพิ่งได้รับการฉีด แต่หากพบว่าผิวเปลี่ยนสีหลังฉีด ให้รีบพบแพทย์ทันทีค่ะ

Radiesse ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน คืนความอ่อนเยาว์ นวัตกรรมใหม่ที่ APEX

เพราะปัญหาผิวไม่ใช่เรื่องเล็ก ยิ่งปล่อยไว้นานก็ยิ่งแก้ยาก APEX เข้าใจถึงความกังวลนี้ของทุกคน จึงได้นำนวัตกรรมใหม่อย่าง Radiesse มาให้บริการ ซึ่งเป็นทั้งสารเติมเต็ม และช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ที่จะฟื้นคืนความอ่อนเยาว์กลับสู่ผิวของคุณอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องศัลยกรรม และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ

บทความอื่น ๆ