ดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques

การดึงหน้าชั้นลึก (DFL Techniques Facelift) เป็นการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อยกกระชับกล้ามเนื้อชั้น SMAS และโครงสร้างกล้ามเนื้อ รวมไปถึงเส้นเอ็นของใบหน้า ซึ่งการดึงหน้าเทคนิคนี้จึงสามารถยกกระชับใบหน้าได้มากกว่า ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานกว่าการผ่าตัดดึงหน้าแบบอื่น ๆ เนื่องจากมีการเข้าไปปลดล็อกเนื้อเยื่อบริเวณใต้ชั้น SMAS ทำให้กล้ามเนื้อสามารถขยับได้อย่างอิสระมากขึ้น จึงทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องผิวหนังตึงรั้ง หรือและดำไม่เป็น ธรรมชาติ

SMAS คืออะไร ?

SMAS (Superficial Musculo Aponeurotic System) คือกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณใต้ชั้นไขมันผิวหนัง กล้ามเนื้อดังกล่าวจะเป็นกล้ามเนื้อที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการผ่าตัดศัลยกรรมหรือหัตถการเพื่อการดึงหน้าให้ยกกระชับ เนื่องจากชั้น SMAS นี้มีความสัมพันธ์กับผิวหนังและชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้านบน การดึงชั้น SMAS ให้ตึง จะทำให้ผิวชั้นบนถูกดึง และทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยของเรามีความยกกระชับมากยิ่งขึ้น

การดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques เป็นการดึงหน้าด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุด โดยแพทย์จะลงลึกไปยังใต้ชั้น SMAS เพื่อปลดล็อกให้สามารถดึงกล้ามเนื้อและผิวหนังได้มากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น ไม่ตึงรั้ง แลดูเป็นธรรมชาติ และให้ผลลัพธ์ที่สามารถอยู่ได้นานมากขึ้น

ข้อดีของการดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques

ขั้นตอนการดึงหน้าชั้นลึก

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ศัลยแพทย์จะประเมินสภาพผิวหน้าของคนไข้และวางแผนการผ่าตัดดึงหน้าที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลมากที่สุด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

คนไข้จะได้รับคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดดึงหน้า เช่น การงดสูบบุหรี่ หรือการหยุดยาบางชนิด ซึ่งผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการผ่าตัดดึงหน้ามากที่สุด

การผ่าตัด

ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณขมับ ผ่านแนวเส้นผม และรอบหู แล้วทำการเลาะผิวหนัง ดึงเนื้อเยื่อชั้น SMAS และเย็บติดกับส่วนที่แข็งแรง ดึงผิวหนังชั้นบนให้ตึงและตัดส่วนเกินออก ก่อนจะเย็บปิดแผลด้วยไหมเส้นเล็กเพื่อให้แผลเป็นมองเห็นน้อยที่สุด

การดูแลหลังผ่าตัด

การพักฟื้นและดูแลหลังผ่าตัด ควรทานยาตามที่ศัลยแพทย์จัดให้ยาอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน โดยหลังจากดึงหน้าชั้นลึก จะสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าเทคนิคเดิม ส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1-2 สัปดาห์

ทำไมต้องเลือกดึงหน้าชั้นลึกที่ Apex Surgery Hospital

APEX Surgery Hospital โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางเอเพ็กซ์ ให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามแบบครบวงจร ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งนำทีมโดย นพ.สมบูรณ์ ไหวพริบ ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์ในการทำศัลยกรรมมายาวนานกว่า 20 ปี และวิสัญญีแพทย์เฉพาะ พร้อมด้วยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญที่คอยดูแลควบคุมตลอดระยะเวลาการผ่าตัด ทำการผ่าตัดภายในห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มาตรฐานความปลอดภัยระดับ 10K การันตีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่น่าเชื่อถือด้วย รางวัลศัลยกรรมสูงสุด Global Health Asia Pacific 4 ปีซ้อน คุณจึงสามารถเชื่อมั่น และไว้ใจในการดูแลด้านศัลยกรรมตกแต่งความงามโดยคุณหมอสมบูรณ์ ไหวพริบ ได้อย่างแน่นอน

การดึงหน้าชั้นลึกเหมาะกับใคร

การดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques เป็นเทคนิคการดึงหน้าที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยปานกลาง ไปจนถึงหย่อนคล้อยอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 – 70 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ผิวหนังเริ่มเข้าสู่กระบวนการเสื่อมสภาพ โดยผู้เป็นตัวเลือกที่ดีในการดึงหน้าชั้นลึกได้แก่

ลักษณะแผลดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques

การผ่าตัดดึงหน้าในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับแผลที่เกิดจากการดึงหน้ามากขึ้น โดยการดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques เป็นการผ่าตัดดึงหน้าแบบใหม่ที่มีจะมีแผลที่ขนาดเล็ก และซ่อนในบริเวณที่มองเห็นได้ยาก อีกแผลดึงหน้ายังดูไม่รั้งเหมือนการดึงหน้าแบบอื่น ๆ เพราะเป็นการยกกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าชั้นที่ลึกกว่าปกติ

การดูแลตัวเองหลังการดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques

โดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นหลังการดึงหน้าชั้นลึกให้ทราบโดยคร่าว ๆ ตั้งแต่ก่อนเข้าห้องผ่าตัด แต่หลังจากการผ่าตัดดึงหน้าชั้นลึกแล้ว เมื่อคนไข้ฟื้นจากยาสลบ พยาบาลจะมีการแนะนำในการดูแลตัวเองดังนี้

48 ชั่วโมงแรก หลังการผ่าตัดดึงหน้า ควรประคบเย็นโดยใช้น้ำแข็ง หรือ cold pack ประคบบริเวณรอบ ๆ แผล เพื่อช่วยลดบวม ทั้งนี้ช่วง 7 วันแรกหลังการดึงหน้าชั้นลึก จะต้องใส่ผ้ารัดหน้าตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อครบ 7 วันไปแล้ว สามารถใส่ผ้ารัดหน้าอย่างน้อย 10 – 12 ชั่วโมงต่อวัน และควรใส่อย่างต่อเนื่องจนครบ 6 เดือน

นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือนอนคว่ำประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการกระทบกระเทือนของบาดแผล โดยควรนอนนอนยกศีรษะสูงขึ้นกว่าตัว เพื่อลดอาการบวมช้ำ ทั้งนี้หากหลังจากดึงหน้าชั้นลึกแล้ว หากมีเลือดออกมากผิดปกติ หรือบวมมากจนเกินไป ควรติดต่อแพทย์โดยทันที

FAQ

แน่นอนว่าการดึงหน้าจะต้องมีความรู้สึกเจ็บ แต่ระหว่างการดึงหน้า จะมีวิสัญญีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญค่อยให้ยาสลบหรือยาระงับความรู้สึก จึงในช่วงที่ผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่หลังจากผ่าตัด หากผู้เข้ารับการดึงหน้าฟื้นแล้ว ก็อาจมีอาการปวดบวมบ้าง ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด ตามที่แพทย์เป็นผู้สั่ง โดยผู้เข้ารับการดึงหน้าชั้นลึกจะต้องรับประทานยาในปริมาณตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น

โดยทั่วไป การผ่าตัดดึงหน้าชั้นลึกจะใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของการผ่าตัดและเทคนิคที่ใช้

หลังการดึงหน้าชั้นลึก จะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังผ่าตัด แต่ผลลัพธ์สุดท้ายจะเห็นชัดเจนหลังจากอาการบวมและรอยช้ำลดลง ซึ่งอาจใช้เวลา 2-3 เดือน

การดึงหน้าชั้นลึก ศัลยแพทย์จะพยายามซ่อนแผลไว้ตามแนวเส้นผมหรือรอยพับธรรมชาติของใบหน้า ส่วนใหญ่แผลเป็นจะจางลงและแทบไม่สังเกตเห็นเมื่อเวลาผ่านไป

โดยทั่วไป ผลลัพธ์ของการผ่าตัดดึงหน้าสามารถอยู่ได้ 5-10 ปี แต่สำหรับการดึงหน้าชั้นลึก ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นาน 10 – 15 ปี หรือนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ การดูแลผิว และพันธุกรรม

แต่ละคนจะมีระยะเวลาในการพักฟื้นที่ต่างกันไป แต่โดยทั่วไปใช้เวลาพักฟื้นในช่วงแรกประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นสามารถทำกิจกรรมเบา ๆ ได้ แต่ยังควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่หนักหรือออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 4-6 สัปดาห์

หากในการทำหัตถการดึงหน้าทำโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะแลดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังไม่ต้องมีความกังวลเรื่องรอยแผลผ่าตัดอีกด้วย เนื่องจากศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารซ่อนรอยแผลเป็นได้อย่างแนบเนียน

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดดึงหน้าชั้นลึก จะต้องหยุดยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด

โดยทั่วไปแล้ว จะสามารถเริ่มแต่งหน้าได้หลังจากแผลหายดีแล้ว ซึ่งมักใช้เวลาประมาณ 10-14 วันหลังการผ่าตัด แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด

รวมรีวิวดึงหน้าชั้นลึก DFL Techniques

วิดีโอรีวิว

Play Video
Play Video
นพ.สมบูรณ์ ไหวพริบ

Plastic Surgeon at APEX

สอบถามปรึกษาข้อมูล, ราคา, โปรโมชั่น

Copyright© 2024 Apex Medical Center. All rights reserved.