อยากให้ใต้ตาอิ่มฟู ประหนึ่งคนที่นอนพักผ่อนครบ 8 ชั่วโมง ฉีดฟิลเลอร์เข็มเดียวเอาอยู่! อยากจะบอกว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการแก้ปัญหาร่องลึก รอยย่น และถุงใต้ตา อีกทั้งวิธีนี้ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ทว่าการฉีดฟีลเลอร์นั้น หากไม่หาข้อมูล หรือไม่ศึกษาให้ดีพอ ก็สามารถสร้างความเสี่ยงที่จะพลาดได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่เราจะต้องศึกษาถึงข้อควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
และการแก้นั้นอาจจะไม่ง่ายแบบที่คิด ดังนั้นจึงสำคัญมาก ๆ ที่เราจะต้องรู้ ข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด เลือกคลินิกและแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด วันนี้เพ็กซี่ก็จะมาบอก “4 ข้อควรต้องรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา” จะมีอะไรควรรู้บ้างนั้นเราไปดูกันเลย
4 ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นสารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึกใต้ตา รอยย่น และถุงใต้ตา ฟิลเลอร์ใต้ตามีหลายประเภท แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด เพื่อเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ประเภทของฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic acid) เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิดจะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา รอยย่น และถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ฟิลเลอร์ไฮยาลูโรนิกแอซิดสามารถอยู่ได้นาน 12-18 เดือน
- ฟิลเลอร์คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ ฟิลเลอร์คอลลาเจนจะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา รอยย่น และถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ฟิลเลอร์คอลลาเจนสามารถอยู่ได้นาน 6-12 เดือน
- ฟิลเลอร์ไขมันตัวเอง (Autologous fat) เป็นฟิลเลอร์ที่ได้จากไขมันของตัวเอง ฟิลเลอร์ไขมันตัวเองจะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา รอยย่น และถุงใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น ฟิลเลอร์ไขมันตัวเองสามารถอยู่ได้นาน 10-20 ปี
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมตัวดังนี้
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- งดทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ และยาละลายลิ่มเลือด อย่างน้อย 7 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ล้างหน้าและเช็ดให้แห้งก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
2. เลือกคลินิกและแพทย์ผู้มีประสบการณ์
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นขั้นตอนที่ต้องมีการใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกคลินิกและแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดและปลอดภัย
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- คลินิกต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- แพทย์ต้องมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
- คลินิกต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและได้รับการรับรอง
- คลินิกต้องให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างละเอียดก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
3. แจ้งแพทย์ถึงประวัติสุขภาพของคุณ
ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คุณต้องแจ้งแพทย์ถึงประวัติสุขภาพของคุณ โดยเฉพาะหากคุณมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หรือโรคภูมิแพ้ แพทย์จะประเมินสุขภาพของคุณก่อนการฉีดเพื่อความปลอดภัยของคุณ
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- โรคประจำตัวที่คุณมี
- ยาที่คุณรับประทานอยู่
- ประวัติการแพ้ยา
- ประวัติการแพ้อาหาร
- ประวัติการแพ้สารเคมี
4. ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะแจ้งให้ทราบถึงข้อควรปฏิบัติต่างๆ เช่น หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้า หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการโดนแดดจัด สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียง
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้าเป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดเป็นเวลา 7 วัน
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 24 ชั่วโมง
- รับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์สั่ง
- สังเกตอาการผิดปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เช่น รอยแดง บวม ปวด คัน ช้ำ หรือมีก้อนแข็ง
ผลลัพธ์ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ Apex Medical Center
คำถามเกี่ยวกับฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
Filler ใต้ตา ใช้กี่ cc
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้แต่ละคน โดยส่วนใหญ่แล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ที่ข้างละประมาณ 1-2 cc ถ้าคนไข้อายุมาก หรือมีปัญหาใต้ตาเยอะ เช่น ใต้ตาลึกมาก เห็นร่องชัดเจน จำนวนฟิลเลอร์ที่ใช้แก้ปัญหาก็จะเยอะตามขึ้นไปด้วย ดังนั้นก่อนการฉีดแพทย์จะทำการประเมินปัญหาของคนไข้ก่อน เพื่อใช้ปริมาณได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่
ราคาของฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ เนื่องจากปัญหาของคนไข้แต่ละคนมีความแตกต่างกัน ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้จึงไม่เท่ากัน นอกจากนั้นเทคนิคของแพทย์แต่ละท่านในการเลือกยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ เพื่อนำมาฉีดใต้ตาก็ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิกด้วยค่ะ ดังนั้นจึงอยากแนะนำให้คนไข้เข้ามาปรึกษา พูดคุยกับคุณหมอ เพื่อรับการประเมินในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล?
โดยทั่วไปหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีแค่อาการบวมที่ใต้ตา รอยบวมนี้จะค่อยๆ หายไปเองใน 2-3 วันค่ะ และจะเป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์ ส่วนระยะเวลาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นาน 12-18 เดือน ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ด้วยนะคะ ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
ก่อนฉีดฟีลเลอร์ใต้ตา เพื่อนๆ ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมและเตรียมตัวเองก่อนจะเข้าไปฉีดฟิลเลอร์นะคะ
- ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
- เลือกแพทย์ผู้ฉีดที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
- ก่อนการฉีด 1 วัน ควรงดรับประทานแอลกอฮอล์ใน 24 ชั่วโมง
- ก่อนการฉีด 1 วัน งดการทานยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินอีและอาหารเสริมใบแปะก๊วย ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมใต้ตาหลังฉีดได้เร็วขึ้น
ดูแลตัวเองยังไงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว อาจจะมีอาการบวมที่บริเวณใต้ตาในจุดที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน แต่ไม่ต้องกำลังไปค่ะทางแพทย์จะให้ยาแก้ปวดและยาลดอาการบวมมาให้ร่วมด้วยค่ะ และหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จ แนะนำให้ผู้รับบริการดูแลตัวเอง ตามข้อแนะนำนี้ได้เลยค่ะ
- ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากเดิมได้
- ประคบน้ำเย็นที่ใต้ จะช่วยลดอาการบวมหลังฉีดได้
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวยาวนานขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายง่าย
- งดการทำเลเซอร์ที่ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นยังไง?
หลังจากที่นัดแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเรียบร้อย แพทย์จะประเมินปัญหาและอธิบายขั้นตอนในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้คนรับบริการ เข้าใจในการฉีดฟิลเลอร์จะใช้เวลาประมาณ 5–20 นาที และมีขั้นตอนดังนี้
- ล้างหน้าเช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้หมดจด
- แพทย์จะทำการวาดจุดที่จะฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา
- แพทย์จะทายาชาบริเวณใต้ตาเพื่อเตรียมตัวฉีด จากนั้นให้ผู้รับบริการรอ 2-3 นาทีให้ยาชาออกฤทธ์
- แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณจุดที่วาดไว้ก่อนหน้า
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาร่องลึก รอยย่น และถุงใต้ตา สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด เลือกคลินิกและแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด