ริมฝีปาก เป็นเครื่องหน้าอีกอย่างที่มีผลมากๆ กับความงามของใบหน้า ปากที่เป็นรูปกระจับ อิ่มเอิบ และดูเซ็กซี่ คือเทรนด์ความงามที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะทำให้ดูโดดเด่นแล้ว จะทาลิปสติกสีไหนก็ดูสวย จึงทำให้การทำปากกระจับ หรือเสริมให้ปากดูอวบอิ่ม เป็นการเสริมความงามอันดับต้นๆ ที่ผู้หญิงเลือกทำ ซึ่งหลายคนก็เลือกที่จะให้วิธีทางการแพทย์ในปรับรูปปากให้เป็นตามที่ต้องการ โดยวิธีที่ได้รับความนิยมก็ได้แก่ การศัลยกรรมปาก และการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ นับเป็นทางลัดสำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า ที่เป็นปัญหากวนใจและทำให้ดูแก่ลง ซึ่งในปัจจุบันมีคลินิกศัลยกรรมหลายแห่งที่รับบริการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแต่ละที่มีราคาไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไรนัก แถมยังมีการนำเสนอว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์คุณภาพดีและแพทย์มีความเชี่ยวชาญด้วยกันทั้งนั้น แล้วอย่างนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่า.. เราควรจะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาฝากกัน
ฟิลเลอร์ อันตรายไหม ?
อย่างที่บอกไปว่า ฟิลเลอร์ ที่ปลอดภัยและนิยมใช้มากที่สุด ก็คือ HA เป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) สร้างเลียนแบบสารที่มีในร่างกายมนุษย์ตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูงมาก ฟิลเลอร์ HA จึงเป็นที่นิยมใช้ในคลินิกความงามค่ะ
เมื่อมั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่นำมาฉีดเป็นฟิลเลอร์ HA แท้ ต่อมาที่ต้องระวังคือเทคนิคการฉีดของแพทย์ค่ะ ต้องเลือกฉีดกับแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีด เทคนิคการใช้เข็มที่ถูกต้อง เพื่อระวังไม่ให้ฉีดเข้าเส้นเลือดจนเกิดภาวะ Hematoma (ภาวะเลือดคั่ง) ได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นการฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงเข้าไปเติมเต็มและปรับรูปปากให้เป็นไปตามที่ต้องการ โดยในการฉีดแต่ละครั้งจะสามารอยู่ได้ 6-12 เดือน หลังจากนั้นสารที่ฉีดเข้าไป ก็จะสลายไปตามธรรมชาติ โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ที่การฉีดฟิลเลอร์ปากได้รับความนิยมก็เป็นเพราะว่า การฉีดฟิลเลอร์ที่ปากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของปากได้ทันที หลังจากการฉีด หรือถ้าหากไม่พอใจ ก็สามารถปรับแต่งได้เลย โดยไม่ต้องเจ็บตัว ใช้เวลาในการทำน้อย ผู้เข้ารับการฉีดสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที และไม่ต้องกังวลเรื่องแผลและการดูแลรักษาหลังฉีด
ทว่าในการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น ก็มีข้อควรระวังด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของการเลือกสถานที่ในการฉีด ผู้เข้ารับบริการ ควรเลือกฉีดกับสถาบันความงามที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก เลือกทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เนื่องจากบริเวณริมฝีปาก เป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดและเส้นประสาทจำนวนมาก หากผู้ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์มากเพียงพอ แพทย์อาจเลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่มาใช้ฉีดบริเวณปากไม่เหมาะสม ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ตรงความต้องการ หรือสารฟิลเลอร์อาจไปอุดตันเส้นเลือด ทำให้เป็นอันตรายได้ ดังนั้นก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน และควรเลือกคลินิกที่วางใจได้ เพื่อความปลอดภัย
ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยอะไรบ้าง?
- ช่วยเติมเต็มริมฝีปาก
- ช่วยลบริ้วรอย ร่องลึกของริมฝีปาก
- ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับริมฝีปาก
- ช่วยทำให้ผิวบริเวณริมฝีปากเต่งตึง เรียบเนียน
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?
- ควรหยุดการทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน กลุ่มยาต้านการอับเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกซ้ำ
- งดทานวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น Vitamin E , น้ำมันปลา , น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส , สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์
- ทำตัวเองให้แข็งแรงอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
- ก่อนฉีดควรทำความสะอาดผิวหน้าเช็คเครื่องสำอางก่อนพบแพทย์
ดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรง เช่น การอบซาวน่า , แช่น้ำอุ่น รวมถึงการนวดหน้าด้วยความร้อน
- งดการบีบ นวด กด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปผิดรูปได้
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่เป็นเวลา 3-7 วัน
- ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีด
วิธีเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ทำการฉีดฟิลเลอร์
ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน และมีใบอนุญาตการเปิดที่ถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าศูนย์ความงามนี้มีแพทย์ผู้ดูแลอยู่จริง รวมทั้งสะอาด มีระบบการจัดการที่ได้มาตรฐาน คลินิกที่อยู่ในแหล่งชุมชนที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ลับตาคน ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเห็นโฆษณาหรือมีใครชักชวนให้ไปฉีดนอกสถานที่ เช่น ตามบ้านหรือคอนโด ให้เดาได้เลยว่าเป็นหมอกระเป๋าค่ะ เพราะกระทรวงสาธารณสุขมีกฎข้อบังคับไม่ให้กระทำการดังกล่าวค่ะ
- แพทย์ผู้ทำการฉีดฟิลเลอร์ของคลินิกต้องมีคุณสมบัติยังไง
ถ้าเป็นแพทย์จริงๆ เราสามารถตรวจเช็กประวัติของแพทย์ได้ว่าเป็นแพทย์จริงมั้ย มีวุฒิบัตรจากแพทย์ที่สภารับรอง มีประสบการณ์และรู้จักกายวิภาคเป็นอย่างดี
- ฟิลเลอร์ที่ใช้ในคลินิกเป็นยังไง
ทางคลินิกต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานจากอย.ไทย ซึ่งลักษณะฟิลเลอร์แท้จะต้องเป็นสาร Hyaluronic acid เนื่องจากมีความปลอดภัยสูง คนไข้สามารถเช็กฟิลเลอร์ที่ตนเองได้ทุกกล่อ แพทย์แกะฟิลเลอร์จากกล่องให้ดูต่อหน้า เราสารถเช็กรายละเอียดของฟิลเลอร์ได้จากบนกล่องและที่ตัวผลิตภัณฑ์
- รีวิวจากเคสผู้เข้ารับบริการ
รีวิวจากคลินิกนั้นก็สำคัญมาก เพราะเราสามารถดูว่าคลินิกที่เราจะไปฉีดฟิลเลอร์สามารถปรับรูปหน้าของลูกค้าได้มากแค่ไหน ฉีดฟิลเลอร์ให้สวยขึ้นหรือแย่ลงก็ดูได้จากเคสรีวิวของผู้เข้ารับบริการนี่แหละค่ะ แต่ต้องเป็นรูปภาพจากคนไข้จริงที่เป็นภาพก่อนและหลังทำ และควรเป็นภาพที่ถ่ายจากสถานที่เดียวกัน มุมเดียวกัน ยิ่งมีวิดีโอด้วยจะดีมากค่ะ เพราะวิดีโอที่เป็นวิดีโอจริงๆ ไม่ใช่แค่เอารูปมาเปะแล้วทำเป็นวิดีโอของเคสรีวิวมันจะดูสมจริงดูเรียลกว่ารูปภาพ
- ราคาของฟิลเลอร์ในคลินิกที่จะไปฉีด
ราคาฟิลเลอร์ควรอยู่ในราคากลางของตลาด ไม่ควรแพงจนเกินไปหรือถูกจนเกินไป เพราะส่วนมากที่เป็นราคาถูกกว่าท้องตลาดมากจนเกินไปจะเป็นฟิลเลอร์ปลอมค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์และรุ่นที่เลือกใช้ด้วยนะคะ ตามหลักแล้วฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานผ่าน อย. จะอยู่ได้นานถึง 6-18 เดือน และทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทุกคนด้วยว่าจะรักษาฟิลเลอร์ได้นานแค่ไหน เพราะการฉีดฟิลเลอร์มีข้อควรหลีกเลี่ยงอยู่ หากปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำก็จะสามารถยืดอายุให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ยาวนานขึ้นค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล มีอาการบวมไหม?
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์แล้วเนี่ยก็จะเห็นผลถึงการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีเลยค่ะ ส่วนในเรื่องของอาการบวมช้ำหลังฉีดสามารถเกิดขึ้นได้ แต่จะบวมมากบวมน้อยขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ ภายใน 7-14 วัน ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่เข้าทางกลืนเข้ากับผิว และอาการบวมก็จะหายไปนั่นเองค่ะ คนไข้สามารถประคบเย็บเพื่อบรรเทาอาการบวมได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกด นวด บริเวณที่ฟิลเลอร์เป็นเวลา 2-3 วัน
เช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ตามสิทธิ์แล้วสามารถแจ้งคุณหมอ หรือ ทางคลินิกที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ได้เลยค่ะ ซึ่งทาง Apex Medical Center ก่อนจะฉีดแต่ละเคส คุณหมอแกะกล่องให้ดูพร้อมกับเช็ค อย. ไปพร้อมกับลูกค้าเลยค่ะ เพื่อความสบายใจในการทำหัตถการทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองง่ายๆ มีวีธีดังนี้ค่ะ
- ราคา ถ้าราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ฟิลเลอร์นั้นอาจจะเป็นของปลอมค่ะ
- ต้องมีฉลากภาษาไทย ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่จะมีฉลากภาษาไทย ซึ่งควบคุมด้วยองค์การอาหารและยาของประเทศไทย ฉะนั้นแล้วเนี่ยฉลากก็ต้องเป็นภาษาไทยค่ะ
- มาตรฐานความปลอดภัย ฟิลเลอร์ทุกกล่องจะมีมาตรฐานความปลอดภัยของ อย. เป็นฉลากสีขาวติดอยู่ข้างกล่อง
- ขายบนอินเตอร์เน็ต หรือ ตามโชเชียล บอกเลยว่าอย่าหาไปซื้อมาเองค่ะ เพราะการจะซื้อฟิลเลอร์คุณหมอหรือสถาบันนั้นๆ จะต้องยื่นเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นใบรับรองทางการแพทย์เพื่อระบุตัวตนว่าเป็นคุณหมอจริงๆ รวมไปถึงใบสถานประกอบพยาบาล ดังนั้นเนี่ยเราไม่สามารถสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตได้แน่นอนค่ะ ถ้าหากมีขายตามอินเตอร์เน็ตให้คิดไว้เลยว่าเป็นของปลอม 100% ค่ะ
- ผู้แอบอ้างเป็นหมอ เช็คให้ชัวร์ว่าคุณหมอที่เราจะไปฉีดด้วยเนี่ย เป็นคุณหมอจริงๆ ไหม เราสามารถเช็คข้อมูลในเว็บไซต์แพทยสภาได้ค่ะ
- ข้อมูลฉลากบนตัวกล่อง จะต้องมีชื่อบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย บริษัทนำเข้า วันหมดอายุ เลขล็อตสินค้าข้างในกล่องและข้างนอกกล่องต้องตรงกันและข้อมูลทั้งหมดจะต้องชัดเจน และที่สำคัญตัวกล่องจะต้องไม่มีรอยแกะและภายในกล่องจะต้องมีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน
ทำไมที่ Apex Medical Center ถึงเลือกฟิลเลอร์ Juvederm
- เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีประสบการณ์ด้านการผลิตมากกว่า 36 ปี ด้วยมาตรฐานคุณภาพที่สูงและพัฒนารุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง มีจุดเด่นเรื่องของความยืดหยุ่นและโดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวกระชับขึ้น
- มีส่วนผสมของยาชา ที่ชื่อว่า Lidocaine เพื่อลดความเจ็บและเพิ่มความผ่อนคลายขณะฉีด
- สาร Hyaluronic Acid เป็นลักษณะเนื้อเจลฟิลเลอร์เรียบเนียน ให้ผลลัพธ์สวยดูเป็นธรรมชาติ
- เทคโนโลยีเฉพาะทำให้ตัวฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่นถูกออกแบบให้สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี
ถ้าใครยังมองหาสถาบันความงาม ที่วางใจได้ในเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ ที่ APEX พร้อมให้คำปรึกษา และดูแลเรื่องการฉีดฟิลเลอร์อย่างใกล้ชิด ด้วยบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์มากมาย ที่พร้อมช่วยคุณปรับเปลี่ยนและแก้ไขใบหน้าให้โดดเด่น สวยงามอย่างที่ต้องการ โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการพึงพอใจในใบหน้า และเสริมความมั่นใจให้กับตัวเอง
สนใจนัดจองคิวหรือปรึกษาเพิ่มเติม ทักก่อนสวยก่อนใครได้ที่ ✨✨
📞 085-0000855
🟣 Line OA : @apexlifting (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)
🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl
🟣 Facebook : Apex Profound Beauty
🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/inbox
🟣 IG : apexbeauty
APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ
#ApexLifeCenter #APEXWELLNESS #apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #apexmedicalcenterมีกี่สาขา #apexclinicสาขาไหนดี #apexclinicรีวิว #apexclinicเลเซอร์ขน #apexclinicเลเซอร์รักแร้ #apexclinicทำตาสองชั้น #apexclinicทำหน้ากระชับ #apexclinicทำหน้าใส
apexclinic เสริมหน้าอก ทำตาสองชั้น ฉีดวิตามินผิว filler ใต้ตา ลดต้นขา ปลูกผมที่ไหนดี ดูดไขมัน รักษาหลุมสิว เสริมจมูก