ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ แก้ไขได้ด้วย “ฟิลเลอร์”

เคยเป็นไหมเวลามองในกระจกแล้วเห็นใต้ตาดำคล้ำ นั่นเป็นปัญหาที่ทำให้รู้ว่าคุณดูเหนื่อยเกินไปรึป่าว อาจจะเป็นปัญหาหลักๆ ของผู้หญิงหลายคนเลยทีเดียวค่ะ ซึ่งใต้ตาดำคล้ำเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในทุกวัย แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเกิดจากพันธุกรรม พักผ่อนไม่เพียงพอ หรืออาจเกิดจากความเครียด  ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใสดูโทรมแล้วยังดูแก่ก่อนวัย อีกอย่างการมีใต้ตาดำคล้ำต้องคอยแต่งหน้าเพื่อกลบเกลื่อน แต่การจะกลบให้มิดเนี่ยต้องอาศัยเทคนิคแต่งหน้านิดหนึ่งเพื่อกลบรอยดำ ในปัจจุบันมีวิธีแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำหลายวิธี หนึ่งในนั้นคือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดสารเติมเต็มผิวหนังบริเวณใต้ตา สารเติมเต็มนี้ก็คือ ไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) หรือที่เราเรียก “ฟิลเลอร์” ที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ผลิตจากสารธรรมชาติ เหมาะกับการแก้ปัญหาผิว ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในชั้นผิวหนัง และเพิ่มปริมาณเนื้อเยื่อเพื่อทดแทนคอลลาเจนให้ร่องที่ลึกกลับมาและเรียบเนียนเท่ากับบริเวณโดยรอบ ให้ดูเต็มและเต่งตึงมากขึ้น ฟิลเลอร์ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่สามารถเห็นผลหลังทำทันที และชัดเจน เพราะผิวใต้ตาที่ลึกหรือเป็นร่องจะอิ่มฟูขึ้นมาหลังจากฉีด ทำให้ผิวเรียบเนียน และเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่าง ใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา และริ้วรอยใต้ตา นอกจากนี้ฟิลเลอร์จะช่วยกักเก็บน้ำให้ผิว ทำให้ผิวบริเวณนั้นชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน และลดรอยเหี่ยวย่นอีกด้วย

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Filler #ฟิลเลอร์ #การฉีดฟิลเลอร์ #ฟิลเลอร์ปาก #ฟิลเลอร์คาง #ฟิลเลอร์จมูก #ฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา #ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี #ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร #ฉีดฟิลเลอร์2023 #ฟิลเลอร์ใต้ตา #ใต้ตาลึกตา #ใต้ตาลึกคล้ำ #ตาโหล #เบ้าตาลึก

 

 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาใต้ตายังไง?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะช่วยทดแทนเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใต้ตาที่สลายไป ทำให้ร่องลึกใต้ตาดูตื้นขึ้น เติมเต็มผิวหนังที่ยุบตัวให้กลับมาเต่งตึงอีกครั้ง นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังช่วยแก้ปัญหาอื่นๆ ได้อีกหลายประการ ดังนี้

  • ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ที่อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ที่ใต้ตาทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยาย และอายุที่มากขึ้น
  • เบ้าตาลึก ตาโหล ที่เกิดจากอายุที่มากขึ้น มักพบได้ในคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ทำให้เนื้อเยื่อใต้ตาจะค่อยๆ ยุบลง
  • ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย ที่เกิดจากกรรมพันธุ์ พฤติกรรมที่ทำให้เกิดไขมันใต้ตา เช่น ขยี้ตาแรง พักผ่อนน้อย
  • ริ้วรอยใต้ตา จากอายุที่มากขึ้น การใช้สายตาหนักเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตามีริ้วรอย

 

ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตา

ปัญหาใต้ดวงตาที่สามารถพบได้และสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่ ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาเหี่ยวย่น มีถุงใต้ตา ดวงตาลึก บริเวณเหนือตา และด้านข้างหัวตาที่ติดกับสันจมูกที่เรียกว่าร่องน้ำตา ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดได้จากทั้งพันธุกรรม การเป็นโรคภูมิแพ้ การเจริญเติบโตของกระดูกเบ้าตาที่ไม่ดี และสาเหตุของปัญหาที่พบมากที่สุด “อายุ” นั่นเอง

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Filler #ฟิลเลอร์ #การฉีดฟิลเลอร์ #ฟิลเลอร์ปาก #ฟิลเลอร์คาง #ฟิลเลอร์จมูก #ฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา #ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี #ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร #ฉีดฟิลเลอร์2023 #ฟิลเลอร์ใต้ตา #ใต้ตาลึกตา #ใต้ตาลึกคล้ำ #ตาโหล #เบ้าตาลึก

 

 

 

  • ปัญหาใต้ตาคล้ำที่ต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มักเกิดจากการที่ผิวบาง ซึ่งเป็นผลมาจากอายุที่มากขึ้น ลักษณะทางพันธุกรรม หรืออาจเกิดจากการอักเสบใต้ผิวหนังบริเวณใต้ดวงตา ซึ่งเกิดขึ้นได้จากปัญหาโรคภูมิแพ้ หรือแพ้สารบางชนิด โดยใต้ตาที่คล้ำจะทำให้ดูสุขภาพไม่ดี และใบหน้าไม่สดใส

 

  • ปัญหาใต้ตาเหี่ยวย่น เกิดจากกระดูกบริเวณเบ้าตาน้อยกว่าปกติ ไม่มีฐานรองรับไขมันใต้ผิวหนังที่ควรจะอยู่บริเวณใต้เบ้าตา ทำให้เบ้าตาเหี่ยวย่นจนดูมีอายุ ซึ่งสาเหตุของกระดูกเบ้าตาน้อยลง อาจเกิดจากการสลายตัวของกระดูก หรือการที่กระดูกเจริญได้ไม่เต็มที่มาตั้งแต่ต้น ซึ่งภาวะกระดูกบริเวณเบ้าตาน้อยกว่าปกติสามารถเกิดได้จากทั้งพันธุกรรมและอายุ

 

  • ผู้ที่มีอายุมาก มักเกิดภาวะกระดูกบริเวณเบ้าตากร่อนร่วมกับไขมันบริเวณใต้ตาลดลง ส่งผลให้เอ็นที่ยึดรอบเบ้าตาตกลง จนทำให้ใต้ตาเหี่ยวตามวัย
    นอกจากใต้ตาเหี่ยวแล้ว กระดูกบริเวณเบ้าตาน้อยยังส่งผลให้มีถุงใต้ตาและทำให้ตาโหลได้ด้วย เพราะเมื่อกระดูกใต้เบ้าตาหายไป ไขมันที่ควรจะอยู่ในเบ้าตาก็จะเคลื่อนตัวออกมาอยู่ที่ใต้ตา ทำให้เกิดเป็นถุงใต้ตาเวลายิ้ม หรืออาจมองเห็นได้ตลอดเวลา

 

  • ไขมันเคลื่อนที่ต่ำลงจนเกิดถุงใต้ตา ไขมันที่ควรจะอยู่บริเวณร่องน้ำตาหรือเหนือดวงตาก็จะเคลื่อนตัวลงมาด้วย ส่งผลให้ดวงตาลึกโหลกว่าปกติ จนดูสุขภาพไม่ดีและดูอายุมากขึ้น


หากมีปัญหาดังกล่าว สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาวิธีทำให้ใต้ตาหายดำที่สามารถเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกคือการฉีดใต้ตาดำ ซึ่งจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในผิวหนังชั้นตื้นๆ ทำให้ผิวอยู่ห่างจากเส้นเลือดดำมากขึ้น ส่งผลให้ใต้ตาที่ดำดูสว่างขึ้นตั้งแต่หลังฉีด ทั้งยังทำให้ใต้ตาที่ย่นนั้นเต็มขึ้นจนผิวใต้ตาเต่งตึงขึ้นได้ และการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในชั้นผิวหนังที่ลึกลงไป จะสามารถไปแทนที่กระดูกเบ้าตาที่หายไปได้ ทำให้ไขมันในเบ้าตาที่เคลื่อนลงมาเป็นถุงใต้ตา เคลื่อนกลับเข้าไปในเบ้าตาอย่างเก่า ส่งผลให้ถุงใต้ตาหายไป และดันให้ตาที่ลึกโหลกลับมาเต็มดังเดิม

 

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. ฆ่าเชื้อในบริเวณที่จะฉีด ทั้งบริเวณใกล้ดวงตาและบริเวณที่ต่ำลงมา เนื่องจากจุดที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยปกติจะอยู่ต่ำลงมาในบริเวณโหนกแก้ม
  2. แพทย์จะสอบถามเรื่องการใช้ยาชา หากไม่ต้องการสามารถแจ้งแพทย์ได้ ในกรณีที่ใช้ยาชาหลังจากทายาชาเฉพาะที่แล้ว จะทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาทีเพื่อให้ยาออกฤทธิ์
  3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยเข็มขนาดเล็กตามปริมาณ และตำแหน่งที่กำหนดไว้ ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกตึงๆใต้ดวงตา หากใช้ยาชาจะไม่รู้สึกเจ็บ
  4. แพทย์จะทำความสะอาดแผลอีกครั้ง ไม่ต้องเย็บแผลเนื่องจากแผลจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีขนาดเล็กมาก อาจจะมีพลาสเตอร์ปิดแผลขนาดเล็กติดไว้ให้เพื่อห้ามเลือด
  5. พักฟื้นสักครู่ จากนั้นจึงสามารถกลับบ้านได้

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรืออาจกว่านี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีนะคะ

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Filler #ฟิลเลอร์ #การฉีดฟิลเลอร์ #ฟิลเลอร์ปาก #ฟิลเลอร์คาง #ฟิลเลอร์จมูก #ฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา #ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี #ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร #ฉีดฟิลเลอร์2023 #ฟิลเลอร์ใต้ตา #ใต้ตาลึกตา #ใต้ตาลึกคล้ำ #ตาโหล #เบ้าตาลึก

 

 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?

  • แก้ปัญหาใต้ตาเหี่ยวย่น ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเติมสารใต้ผิวให้ใต้ตาเต่งตึง
  • แก้ปัญหาถุงใต้ตา สามารถฉีดฟิลเลอร์เติมฐานกระดูก และทดแทนไขมันที่หายไปตามอายุได้
  • แก้ปัญหาตาลึกโหล ร่องน้ำตา ร่องใต้ตาลึก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและด้านบนตา เพื่อทดแทนไขมันที่เคลื่อนลงมา 
  • แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ โดยการฉีดฟิลเลอร์ยกผิวให้ห่างจากหลอดเลือดใต้ผิวหนัง 
  • ปรับโหงวเฮ้งของใบหน้า ด้วยการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับลักษณะของผิวรอบดวงตา เสริมความโชคดีตามความเชื่อส่วนบุคคล

 

การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร?

  • คนที่มีเบ้าตาลึกคล้ำ ตาดูโหล
    ในเคสที่มีเบ้าตาลึกคล้ำ ตาดูโหล จะทำให้ดูโทรม ดูแก่กว่าวัย ใบหน้าดูมีความเหนื่อยล้าอยู่ตลอดเวลา
  • ร่องน้ำตาหรือร่องใต้ตาลึกชัด ลักษณะเป็นครึ่งวงกลมใต้ตา
    ในเคสที่มีร่องน้ำตาหรือร่องใต้ตาลึกชัด จะทำให้บริเวณใต้ตาดูลึกคล้ำ ไม่สดใส และดูแก่กว่าวัย
  • ผิวดูเหี่ยวย่นจากริ้วรอย ดูไม่สดใส
    ในเคสที่มีริ้วรอยบริเวณใต้ตา ทำให้ดูเหมือนรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน
  • ดำคล้ำจากอาการภูมิแพ้ หรือขยี้ตาจนติดเป็นนิสัย
    ในเคสที่มีใต้ตาดำคล้ำ จากอาการภูมิแพ้ หรือขยี้ตาจนติดเป็นนิสัย ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตามีรอยย่น

 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

เรื่องที่ใครหลายๆ คนกังวลมากที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คงไม่พ้นเรื่องของความเสี่ยง จะเป็นอันตรายไหม? จะตาบอดรึเปล่า? กรณีที่จะทำให้ตาบอดได้ก็ต่อเมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าไปแล้วพลาดเข้าในเส้นเลือดที่เลี้ยงจอประสาทตา ฟิลเลอร์ก็จะเข้าไปอุดต้นเส้นเลือด ทำให้เลือดไม่สามารถไม่หล่อเลี้ยงบริเวณดวงตา อาการเริ่มแรกจะมีอาการตาพร่ามัวหลังจากนั้นจะเริ่มมองไม่เห็นและตาบอดในที่สุด

หากเกิดความผิดพลาดดังกล่าวขึ้นมาจะมีอาการทันที ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงต้องมีความระมัดระวังอย่างมากค่ะ แต่ใช่ว่าจะมีโอกาสเกิดกันได้ง่ายๆ เพราะถ้าเราเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์จริงๆ มีความชำนาญในด้านของกายวิภาค ก็จะสามาถหลีกเลี่ยงการฉีดฟิลเลอร์แล้วตาบอดได้ โดยต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์อย่างถูกต้อง ทั้งคลินิกที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อทางเว็บไซต์ของแพทยสภาได้ค่ะ ส่วนหมอกระปงกระเป๋าอย่าไปหาฉีด! เพราะมีความเสี่ยงสูงมาก อย่าหาไปฉีดนะสาวว

 

ฟิลเลอร์ใต้ตา ควรฉีดในปริมาณเท่าไหร่?

            โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ประมาณ 1-2 cc โดยแพทย์จะประเมินจากปัญหาของแต่ละเคสว่ามากน้อยแค่ไหน(อาจะใช้เยอะในเคสที่มีปัญหามาก) แน่นอนว่าในการฉีดแต่ละครั้งควรใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่พอดี เพราะการฉีดเยอะเกินจะทำให้เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังยืดออกมากเกินไป ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำ การฉีดฟิลเลอร์นั้นควรฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญเพื่อความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะตามมา

 

การฉีดฟิลเลอร์ ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

             การฉีดฟิลเลอร์เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยสามารถเห็นผลทันทีหลังทำ และสามารถอยู่ได้ 1-2 ปี ก่อนจะสลายไปตามธรรมชาติ ทั้งนี้ระยะเวลาการคงอยู่ในร่างกายของแต่ละคนอาจแตกต่างกันบ้าง ตามสภาพร่างกาย การดูแลตัวเอง รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน

 

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็คือ ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย เช่น แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา เห็นผลลัพธ์หลังฉีดรวดเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน อีกทั้งฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้าง 

 

ข้อเสียในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็คือ ความไม่คงทนก็คือจะอยู่ไม่ได้นานถาวร สลายไว เมื่อเจอความร้อน หรือหากทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนบ่อยๆ เช่น ออกกำลังกาย ซาวหน้า ทำเลเซอร์ เป็นต้น แต่เมื่อสลายไปแล้วก็ต้องมาเติมอยู่บ่อยๆ  อีกทั้งยังมีความเสี่ยงหากแพทย์ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้ผิวบวม ช้ำ ฟิลเลอร์จับเป็นก้อนได้ค่ะ

 

ใครเหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่

  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก
  • ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ
  • ผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา
  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา

 

ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน?

สาเหตุของการฉีด Fillerใต้ตาแล้วเป็นก้อนมีด้วยกันอยู่หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

  • การฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป 
  • การเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งที่ฉีด 
  • การฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้ไปอยู่บนชั้นกล้ามเนื้อ 
  • การใช้ฟิลเลอร์ปลอม 

โดยสามารถสังเกตได้จากผิวที่ไม่เรียบเนียนบริเวณใต้ตา เห็นเป็นลักษณะถุงใต้ตา มีความบวมและหย่อนคล้อย ทั้งนี้เพื่อผิวรอบดวงตาที่เรียบเนียนไม่เป็นก้อน เราจึงควรฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่มีประสบการณ์

 

Q&A คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

Q : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ถาวรไหม?

 

A : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ไม่ถาวรค่ะ เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายได้เอง แต่จะอยู่ได้นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ฉีดค่ะ บางยี่ห้อสามารถอยู่ได้นาน 6 เดือนถึง 1 ปี และบางยี่ห้ออยู่ได้นาน 8 เดือนถึง 1 ปี ทั้งนี้หากว่าดูแลตัวเองดี หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วก็จะช่วยฟิลเลอร์มีอายุอยู่ได้นานขึ้น

 

Q : ทำตาพร้อมฉีดฟิลเลอร์เลยได้ไหม

           การทำตาพร้อมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถทำได้ในบางกรณีค่ะ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคลด้วย ทั้งนี้ต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อประเมินปัจจัยด้านสุขภาพและประเมินความเสี่ยงในการทำตาและฉีด Filler ใต้ตาพร้อมกัน ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ทำหัตถการอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

ฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้วขยี้ตาได้ไหม

           หลังฉีด Filler ใต้ตาแล้วควรหลีกเลี่ยงการขยี้ กด และนวดบริเวณที่ฉีด เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้

 

Q : การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

 

A : ก่อนฉีดฟีลเลอร์ใต้ตา เพื่อนๆ ต้องดูแลตัวเองให้พร้อมและเตรียมตัวเองก่อนจะเข้าไปฉีดฟิลเลอร์นะคะ

  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างละเอียด
  • เลือกแพทย์ผู้ฉีดที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ
  • ก่อนการฉีด 1 วัน ควรงดรับประทานแอลกอฮอล์ใน 24 ชั่วโมง
  • ก่อนการฉีด 1 วัน งดการทานยาแก้ปวด แอสไพริน วิตามินอีและอาหารเสริมใบแปะก๊วย ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมใต้ตาหลังฉีดได้เร็วขึ้น

 

Q : รอยเข็มจากฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันหาย

 

A :  โดยปกติแล้วหลังจากการฉีดจะมีอาการบวมแดงเป็นรอยเข็มบริเวณจุดที่ฉีด แต่รอยแดงเหล่านั้น จะจางหายไปในระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน หากต้องการให้รอยแดงหายเร็วขึ้น ควรทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันอาการอักเสบและอาการแทรกซ้อนอื่นๆ 

 

 

Q : ดูแลตัวเองยังไงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา?

 

A : หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้ว อาจจะมีอาการบวมที่บริเวณใต้ตาในจุดที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 2-3 วัน แต่ไม่ต้องกำลังไปค่ะทางแพทย์จะให้ยาแก้ปวดและยาลดอาการบวมมาให้ร่วมด้วยค่ะ และหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จ แนะนำให้ผู้รับบริการดูแลตัวเอง ตามข้อแนะนำนี้ได้เลยค่ะ

  • ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่จากเดิมได้
  • ประคบน้ำเย็นที่ใต้ จะช่วยลดอาการบวมหลังฉีดได้
  • ดื่มน้ำให้มากขึ้น จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ใต้ผิวยาวนานขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายง่าย
  • งดการทำเลเซอร์ที่ผิวหน้า อย่างน้อย 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

 

Q : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม?

A : ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะทายาชาที่ใต้ตาในบริเวณที่จะฉีด ทำให้ขณะฉีดความเจ็บลดน้อยลง และใช้เวลาฉีดเพียงไม่กี่นาที หลังจากฉีดเสร็จ จะมีอาการบวมบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แต่จะค่อยๆ หายไปเองค่ะ

 

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Filler #ฟิลเลอร์ #การฉีดฟิลเลอร์ #ฟิลเลอร์ปาก #ฟิลเลอร์คาง #ฟิลเลอร์จมูก #ฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา #ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี #ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร #ฉีดฟิลเลอร์2023 #ฟิลเลอร์ใต้ตา #ใต้ตาลึกตา #ใต้ตาลึกคล้ำ #ตาโหล #เบ้าตาลึก

 

 

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สาวๆ เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาใต้ตาดำคล้ำและการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากขึ้น หากคุณกำลังมีปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ฉีดฟิลเลอร์ก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง โดยไม่เจ็บ ไม่ต้องผ่าตัดอีกทั้งได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติอีกด้วย และเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองจากอย.ด้วยนะคะ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น หากใครสนใจติดต่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ APEX สามารถติดต่อมาได้ตามช่องทางได้เลยค่ะ

 

 

สนใจนัดจองคิวหรือปรึกษาเพิ่มเติม ทักก่อนสวยก่อนใครได้ที่ ✨✨ 

📞 085-​0000855

🟣 Line OA : @apexlifting  (มี @ นำหน้าด้วยนะคะ)

🟣 คลิก https://lin.ee/nxtKNtl

🟣 Facebook : Apex Profound Beauty

🟣 Inbox : https://www.facebook.com/ApexProfoundBeauty/inbox

🟣 IG : apexbeauty

APEX ของเรามีพร้อมทั้งเครื่องมือที่ทันสมัยและผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการนะคะ

 

 

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #Filler #ฟิลเลอร์ #การฉีดฟิลเลอร์ #ฟิลเลอร์ปาก #ฟิลเลอร์คาง #ฟิลเลอร์จมูก #ฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ #ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา #ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี #ฉีดฟิลเลอร์ช่วยอะไร #ฉีดฟิลเลอร์2023 #ฟิลเลอร์ใต้ตา #ใต้ตาลึกตา #ใต้ตาลึกคล้ำ #ตาโหล #เบ้าตาลึก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *