โบท็อกรักแร้
กแร้เปียก ชุ่มเป็นวง ไม่กล้ายกแขน การฉีดโบท็อกรักแร้ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ หลาย ๆ คนคงจะรู้สึกไม่ดีถ้าตัวเองมีเหงื่อออกมากเกินไป ไม่ว่าจะเหงื่อออกมือ เหงื่อออกเท้า โดยเฉพาะเหงื่อออกรักแร้ ที่อาจกลายมาเป็นปัญหาหนักใจและยังเป็นสาเหตุของกลิ่นตัว เสียบุคลิกภาพ ขาดความมั่นใจ
บทความนี้หมอจะแนะนำวิธีการลดเหงื่อใต้วงแขนที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ นั่นก็คือการฉีด โบท็อกรักแร้ หรือ โบท็อกจักแร้
อ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม
Botox รักแร้ คืออะไร
โบท็อกรักแร้ คือ การฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin type A) หรือที่เรียกว่าโบท็อก เข้าไปที่รักแร้ โดยจะฉีดราวๆข้างละ 100 ยูนิต โดยการฉีดกระจายตัวยาไปทั่วรักแร้ราวๆ 20-30 จุด เพื่อยับยั้บการทำงานของต่อมเหงื่อรวมถึงลดกลิ่นกายบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานน้อยลง ส่งผลให้สามารถลดเหงื่อที่ออกใต้รักแร้ โดยหลังจากที่ฉีดโบท็อกไปแล้วจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ต่อครั้งที่ฉีด
เหงื่อใต้รักแร้ และกลิ่นตัว เกิดจาก
สาเหตุที่ทำให้เหงื่อออก หรือมีกลิ่นตัว เกิดจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะมาจากพันธุกรรม อากาศร้อนอบอ้าว การออกกำลังกาย การทานอาหารเผ็ดร้อน จนทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายสูงขึ้น และยังเกิดได้จากภาวะความเครียด วิตกกังวล หรือตื่นเต้นที่สามารถทำให้เหงื่อออกได้มากขึ้นเช่นกัน
และที่สำคัญบริเวณใต้วงแขนของคนเรามีต่อมผลิตเหงื่ออยู่ ซึ่งแต่ละคนมีมากน้อยไม่เท่ากัน ถ้าคนที่มีต่อมเหงื่อเหล่านี้เยอะ ก็จะทำให้เหงื่อออกมากและมีกลิ่นตัวได้ง่ายกว่า ซึ่งต่อมเหงื่อมีด้วยกัน 2 ประเภท คือ ต่อมเอกไครน์ (Eccrine Gland) และ ต่อมอะโพไครน์ (Apocrine Gland)
ต่อมเอกไครน์ : เป็นต่อมเหงื่อธรรมดา ไม่มีกลิ่น กระจายอยู่ตามร่างกาย ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณแผ่นหลัง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซึ่งร่ากายจะขับน้ำใส ๆ ออกมาเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เหมือนเป็นการระบายความร้อนออกมาทางผิวหนัง ซึ่งเหงื่อจะระเหยออกไปได้เองเมื่ออุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลง
ต่อมอะโพไครน์ : หรือต่อมกลิ่น มีลักษณะค่อนข้างเหนียวใส จะมีเฉพาะบริเวณที่เป็นจุดอับของร่างกาย อย่างเช่น รักแร้ ขาหนีบ โดยบริเวณนี้เมื่อเหงื่อออกจะทำให้เกิดกลิ่น เนื่องจากเหงื่อจะไปผสมกับไขมัน จุลินทรีย์และแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนัง จนทำให้เกิดเป็นกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์นั่นเอง
โบท็อกรักแร้ ลดเหงื่อ ลดกลิ่น ได้อย่างไร
หลายคนคงคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวสวย และลดเลือนริ้วรอย แต่นอกจากนั้นแล้ว โบท็อก ยังสามารถฉีดบริเวณรักแร้ เพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อได้อีกด้วย ดังนั้นเมื่อเหงื่อน้อยลงแล้ว ปัญหาเรื่องกลิ่นก็จะน้อยลงตามไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งการฉีดโบท็อกรักแร้ เป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin type A) เข้าไปบริเวณรักแร้ ข้างละประมาณ 30-100 ยูนิตขึ้นอยู่กับปริมาณต่อมเหงื่อในบริเวณนั้นๆ โดยสารนี้จะเข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อรอบๆ ต่อมเหงื่อทำให้การทำงานของต่อมเหงื่อลดน้อยลง จึงช่วยลดเหงื่อใต้รักแร้ ได้กว่า 83% เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้อีกด้วย เมื่อเหงื่อและการสะสมของแบคทีเรียลดน้อยลงก็จะทำให้ใต้วงแขนไร้กลิ่น เพิ่มมั่นใจให้กับตัวเองได้มากขึ้น โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่าเหงื่อลดลงตั้งแต่ 1-3 วันแรกหลังฉีด และอีกประมาณ 1สัปดาห์ รักแร้จะแห้งสนิท ไร้เหงื่อ ไร้กลิ่น
ใครบ้างเหมาะกับการฉีดโบท็อกรักแร้
- ผู้ที่มีเหงื่อออกใต้วงแขนเยอะมาก จนเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิต และหมดความมั่นใจ
- ผู้ที่ต้องการลดปัญหากลิ่นกายไม่พึงประสงค์ หรือคนที่มีกลิ่นตัวแรงจนรบกวนคนรอบข้าง
- ผู้ที่แพ้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โรออลชนิดน้ำ ครีม หรือแม้แต่สเปรย์ก็ตาม
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดลดต่อมเหงื่อ ต้องการวิธีที่ง่าย สะดวก เห็นผลลัพธ์เร็ว ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น
โบท็อกรักแร้ ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวรไหม?
โบท็อกรักแร้ ไม่สามารถลดเหงื่อ ลดกลิ่นได้อย่างถาวร เพราะเป็นเพียงแค่การฉีดตัวยาเข้าไปเพื่อช่วยยับยั้งการทำงานของต่อมใต้รักแร้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งการฉีดโบท็อกรักแร้ 1 ครั้ง ผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้นาน 6-8 เดือน หลังจากนั้นสาร Botulinum toxin type A จะค่อย ๆ สลายตัวไปเองตามธรรมชาติ โดยไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย
แม้ว่าการฉีดโบท็อกรักแร้ จะสามารถแก้ปัญหาใต้วงแขนได้เพียงชั่วคราว แต่สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เมื่อโบท็อกเริ่มสลายตัวประมาณ 3-4 เดือนหลังจากฉีด เพื่อเป็นการคงผลลัพธ์ที่ได้ไว้อย่างยาวนานต่อเนื่อง
เหงื่อใต้วงแขน และกลิ่นตัวปัญหาที่ไม่ควรปล่อยไว้ แต่สำหรับใครที่ลองมาทุกวิธีแล้ว ปัญหาใต้วงแขนเหล่านี้ก็ยังไม่หายไปสักที ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อช่วยแก้ไขอย่างตรงจุด ถึงต้นตอของปัญหา อย่างเช่น การฉีดโบท็อกรักแร้ ที่ได้แนะนำไปแต่ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิ ควรเลือกฉีดโบท็อกรักแร้กับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคะ
ข้อดี – ข้อเสีย ฉีดโบท็อกรักแร้
ฉีดโบท็อกรักแร้
ข้อดี : ฉีดโบท็อกรักแร้ สามารถช่วยลดเหงื่อและกลิ่นตัวได้กว่า 80% จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อเหงื่อน้อยลงก็จะทำให้กลิ่นตัวก็จะลดลงไปด้วยครับ
- ✓ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บ ไม่มีแผลเป็น
- ✓ ช่วยลดปัญหากลิ่นใต้วงแขน
- ✓ ราคาไม่แพง
- ✓ ไม่ต้องเตรียมตัว
- ✓ หลังทำไม่ต้องพักฟื้น ทำแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย
ข้อเสีย : การฉีดโบท็อกรักแร้ไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหงื่อและกลิ่นตัวได้ถาวร เนื่องจากเป็นเพียงการฉีดสารเข้าไปลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ต่อมกลิ่นเท่านั้น ซึ่งถ้าทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง ก็สามารถอยู่ได้นาน 3 – 5 เดือน จากนั้นสารโบทูลินัมท็อกซินจะสลายไปเองตามธรรมชาติ
ฉีดโบท็อกรักแร้ที่ไหนดี?
ใครที่สนใจการฉีดโบท็อกรักแร้ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า ฉีดโบท็อกรักแร้ที่ไหนดี เบื้องต้นหมอแนะนำให้เลือกเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ภายใต้คลินิกที่ได้มาตรฐานครับ
- แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง จะสามารถคำนวณปริมาณโบท็อกที่ต้องใช้กับคนไข้แต่ละเคสได้อย่างถูกต้อง คนไข้รายที่มีเหงื่อออกมากอาจต้องใช้ปริมาณโบท็อกที่มากขึ้น รวมถึงต้องใช้เทคนิคการฉีดที่แม่นยำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด
- คลินิกที่ได้มาตรฐาน ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์โบท็อกของแท้ มีคุณภาพ มีการติดตามผลหลังทำ สะอาด ปลอดภัย ลดความเสี่ยงอาการแทรกซ้อนหรือติดเชื้อ
- มีรีวิว จากผู้ใช้บริการจริง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ และช่วยให้เห็นผลลัพธ์หลังทำ ว่าได้ผลจริงหรือไม่
ที่ Apex Medical Center หมอเลือกใช้แต่โบท็อกแท้เท่านั้น และมีการแกะกล่อง เปิดขวดใหม่ ดูดยาต่อหน้าคนไข้จนหมด รวมถึงคนไข้สามารถนำกล่องและขวด botox กลับบ้านไปตรวจสอบต่อได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นตัวยาของแท้ค่ะ
สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ Apex Medical Center ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองค่ะ