Previous slide
Next slide

ฟิลเลอร์ปาก

สำหรับคนที่มีริมฝีปากบาง ปากแห้ง เริ่มมีริ้วรอยที่ริมฝีปากและขอบปาก ทำให้เวลาที่ทาลิปสติกแล้วเนื้อลิปสติกตกร่อง ฟิลเลอร์ปาก สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยตรง ทำให้ปากกลับมาชุ่มชื้น เรียบเนียน หรือในกรณีที่ต้องการให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ขอบปากชัด เป็นทรงสวย ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ขอบปาก ยกมุมปาก เพิ่มเนื้อปากให้ดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์และเป็นทรงกระจับได้ครับ

ฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการที่สะดวกและปลอดภัย อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี การเติมฟิลเลอร์ปากใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่มาก ส่วนมากไม่เกิน 1 CC แต่ได้ผลการเปลี่ยนแปลงชัดเจน ส่งผลต่อภาพรวมของใบหน้า ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ให้ปากอวบอิ่ม จึงเป็นจุดสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการปรับรูปหน้าครับ

ใครที่สนใจ ฉีด Filler ปาก หรือกำลังหาข้อมูล ฉีดปากกระจับ ฉีดฟิลเลอร์ปากเติมเต็มให้ปากอิ่มสวย ทั้งเรื่องของราคา ผลลัพธ์ วิธีการเลือกหมอ เลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ รวมถึงตัวอย่างเคสรีวิว เพื่อประกอบการตัดสินใจ หมอได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ปาก ทั้งหมดไว้ในบทความนี้แล้วครับ

อ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม

ฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ การใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ฉีดบริเวณริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปาก ให้ปากอวบอิ่มขึ้น แก้ปัญหาปากบาง ปากแห้งลอก ปากไม่เป็นรูปให้สมดุล เป็นรูปทรงที่สวยงาม

นอกจากการเพิ่มความอวบอิ่ม ฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ปัญหารูปปากคว่ำ ดูหน้าบึ้ง ให้กลับมาดูยิ้มแย้มสดใสขึ้น ด้วยเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากหลังฉีดสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องพักฟื้น เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย และช่วยแก้ไขปัญหาได้หลากหลายครับ

รูปทรงฟิลเลอร์ปากที่เหมาะกับคนไทย

เนื่องจากเทรนด์ความนิยมเกี่ยวกับรูปทรงปากในขณะนี้ คือ ปากสายฝอ ปากหนาแบบตะวันตก

ปัญหาที่พบบ่อยคือคนไข้คนไทยมักนำภาพของดาราฝรั่งที่ริมฝีปากอวบอิ่มมาใช้เป็นตัวอย่าง ฟิลเลอร์ปาก ในกรณีนี้หมอจะพยายามอธิบายให้คนไข้เข้าใจว่า โครงหน้าของฝรั่งนั้นจะชัดกว่าคนไทย ทั้งคิ้วเด่น ตาโต จมูกโด่ง คางยาว

ซึ่งกรณีนี้ควรมีริมฝีปากอวบอิ่มและหนามาก ๆ จะดูมีเสน่ห์มาก แต่ถ้าโครงหน้าแบบคนไทยส่วนมากจะไม่รับกับริมฝีปากแบบดาราฝรั่ง

ควรใช้ตัวอย่างริมฝีปากที่เป็นคนเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี และมีโครงหน้าในจุดอื่น ๆ ใกล้เคียงกับคนไข้ด้วย ผลที่ได้จึงจะออกมาดูเป็นธรรมชาติที่สุด

ซึ่งเมื่อได้ตัวอย่างรูปปากที่คนไข้ต้องการมาแล้ว หมอก็จะประเมิน และคำนวนสัดส่วน ฟิลเลอร์ปาก ให้รับกับจุดอื่น ๆ บนใบหน้าของคนไข้ ดังนี้

  1. ขนาดของริมฝีปาก บน:ล่าง ที่เหมาะสมคือ 1:1.618
  2. เมื่อมองด้านข้างแล้วลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างควรจะแตะเส้นนี้พอดี ส่วนริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ 2 mm
  3. เนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรใหญ่เกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
  4. มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลง
  5. เนื้อปากควรอิ่มเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
  6. ขอบรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวปกติ ไม่มีริ้วรอย

เทคนิคฉีดฟิลเลอร์ปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ หมอต้องมีเทคนิคและประสบการณ์ สามารถวางตำแหน่งฟิลเลอร์ได้อย่างเหมาะสม ไม่ลึกหรือตื้นเกินไป ในการฉีดปากจุดที่ต้องใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษได้แก่ บริเวณ Vermilion border (ขอบปาก) และ Philtrum (ร่องบนริมฝีปาก) เนื่องจากหลายคนอาจมีปัญหาขอบปากเบลอ ไม่ชัด ปากเรียบแบนไม่เป็นทรง แต่การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยสร้างขอบปาก เติมติ่งริมฝีปาก (Tubercle) ทำให้เป็นทรงกระจับสวยมากขึ้นครับ

ที่ V Square Clinic เทคนิคของหมอจะเน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติ ดูความเหมาะสมของขนาดและรูปทรงริมฝีปากกับรูปหน้า ใช้ปริมาณฟิลเลอร์และจุดฉีดที่เหมาะสม ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะเป็นกระจับสวยงามเข้ากับรูปหน้าที่สุดครับ

“ปากที่มีลักษณะดี ต้องมีขอบ มีหยัก มุมปากทั้ง 2 ข้าง ตรงหรือช้อนขึ้นเล็กน้อยและได้รูปเหมาะสมกับขนาดของใบหน้า”

ฟิลเลอร์ปาก

ใครบ้างที่ควรทำฟิลเลอร์ปากกระจับ ?

เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อริมฝีปากจะบางลงเรื่อย ๆ เนื่องจากคอลลาเจนที่สร้างน้อยลง ทำให้เกิดริ้วรอยที่เนื้อปากและขอบปาก เหมือนผิวลูกโป่งที่เคยพองลมแล้วแฟบลง ทำให้ดูมีอายุ ในผู้หญิงจะทำให้ความมีเสน่ห์ดึงดูดน้อยลง

อีกทั้งจะเกิดปัญหาเวลาที่ทาลิปสติกเนื้อลิปสติกจะตกลงไปในร่อง สีปากจะเป็นลาย ๆ ทำให้ต้องเติมลิปสติกบ่อยขึ้น กรณีนี้สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการเติม ฟิลเลอร์ปาก 

ในคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน สวยขึ้น ริมฝีปากถือเป็นจุดเด่นหนึ่งบนใบหน้า ที่ช่วยให้มีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้าม ทั้งในเรื่องของสัดส่วนริมฝีปากบน-ล่าง เนื้อปากที่เรียบเนียน รูปทรงปาก ลักษณะของมุมปากที่ยกขึ้น ล้วนเป็นจุดเด่นที่สำคัญในการปรับรูปหน้าที่ไม่ควรมองข้ามทั้งสิ้น สามารถปรับแต่งได้ด้วยการเติม ฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปาก vs ผ่าตัดปาก

การฉีดฟิลเลอร์ปากและการผ่าตัดปาก มีข้อดีแตกต่างกันไปครับ การฉีดฟิลเลอร์จะเน้นปรับทรงปากให้ดูอวบอิ่มขึ้น สามารถทำทรงปากกระจับได้ แต่อยู่ไม่ได้ถาวร ส่วนการผ่าตัดปากมีข้อดีคือรักษารูปปากไว้ได้ถาวร แต่ก็ต้องรับความเสี่ยงจากการผ่าตัด และหากมีข้อผิดพลาดก็แก้ไขได้ยากครับ

ฟิลเลอร์ปากอันตรายหรือไม่ ?

ริมฝีปากประกอบด้วยเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก แต่สามารถฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเข็มแหลมได้เนื่องจากเนื้อเยื่อในจุดหนึ่ง ๆ ของริมฝีปาก มีเส้นเลือดมาเลี้ยงจากทุกทิศทาง จึงทำให้ไม่เกิดปัญหาเมื่อฉีดฟิลเลอร์ และมีเพียงเส้นเลือดหลักที่อยู่ลึกลงไปเพียงเส้นเดียวเท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์ปากก็มีความปลอดภัย 100%

แต่มีกรณีที่ควรระวังคือคนไข้ที่ผ่านการผ่าตัดริมฝีปากมาก่อนแล้วต้องการฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องแจ้งแพทย์ว่าเคยผ่าตัดมาก่อน เพราะในกรณีนี้เส้นเลือดบางส่วนของคนไข้จะโดนรอยแผลที่เป็นผังผืดปิดกั้น ทำให้แพทย์ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการฉีดมากขึ้น และมีความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือดมากกว่าเคสปกติ

แต่ถึงแม้จะเกิดการอุดตันเส้นเลือด ด้วยเทคนิคการแก้ไขที่มีในปัจจุบันก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์และแก้ไขให้กลับคืนมาได้ภายใน 7-14 วัน โดยที่ไม่ทำให้เกิดเนื้อตายหรือตาบอด ก็ถือว่ามีความปลอดภัย 100% ดังนั้นจึงควร ฉีดฟิลเลอร์ปาก กับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นครับ หากเกิดเหตุสุดวิสัยก็จะสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

ฉีดฟิลเลอร์ปากครั้งแรก มีขั้นตอนอย่างไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีขั้นตอนการฉีดที่ใช้เวลาไม่นานครับ สำหรับ V Square Clinic มีขั้นตอนดังนี้

  1. ปรึกษาแพทย์ ก่อนตัดสินใจฉีด ควรนัดเข้ามาปรึกษาเพื่อให้หมอประเมินใบหน้าและแนะนำทรงปากที่เหมาะสม
  2. เลือกรุ่นฟิลเลอร์ เนื่องจากฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับใช้แก้ปัญหาที่แตกต่างกัน แพทย์จะประเมินว่าความต้องการของคนไข้ และรูปปากที่คนไข้ต้องการเหมาะกับรุ่นไหน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามกับที่คาดหวังที่สุด
  3. ทำความสะอาดและฉีดยาชา ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีการทำความสะอาดบริเวณที่ฉีด และฉีดยาชาให้ทุกเคสครับ (สำหรับคนที่กลัวเจ็บมาก ๆ สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่แปะยาชาเพิ่มได้)
  4. เปิดฟิลเลอร์กล่องใหม่ เพื่อให้คนไข้มั่นใจและสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของแท้ หมอจะเปิดกล่องใหม่ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง
  5. แพทย์ฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยจะค่อย ๆ ปรับทรงให้สวยงาม เป็นธรรมชาติ
  6. ประคบน้ำแข็ง ระหว่างฉีดฟิลเลอร์ เพื่อช่วยลดความเจ็บระหว่างฉีด และช่วยลดบวม
  7. แพทย์แนะนำการตัวแลตัวเอง หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วและอยู่ได้นานขึ้น
  8. นัดติดตามผล หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 เดือนเมื่อปากเข้าที่เต็มที่แล้ว

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ก่อน ฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรหาข้อมูลและเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน
  2. ศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้
  3. ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริงในคลินิกนั้น ๆ
  4. ควรงด ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก ยาแอสไพริน ยา NSAIDs เช่น ibruprofen, diclofenac, ponstan เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  5. งดวิตามิน St.Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, garlic, ginseng และ Vitamin E เป็นเวลา 1 สัปดาห์ก่อนทำ
  6. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
  7. งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  8. หากมีโรคประจำตัว หรือมียาที่กินเป็นประจำ ควรเตรียมข้อมูลไว้เพื่อแจ้งกับแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ

การเตรียมตัวก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นปัจจัยที่จะทำให้ได้ปากทรงสวยและอยู่ได้นานครับ ซึ่งคนไข้ควรศึกษาข้อมูล และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ฟิลเลอร์ปาก ควรใช้ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดีที่สุด ?

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปาก ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ Restylane Kysse จากสวีเดน เป็นฟิลเลอร์รุ่นเดียวที่ออกแบบมาเพื่อใช้ฉีดและแก้ไขปัญหาริมฝีปากโดยเฉพาะ มีลักษณะพิเศษคือเป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สามารถช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น เพิ่มความความชุ่มชื้น เติมความอวบอิ่ม และปรับสีปากให้ดูสดใสขึ้นได้ อยู่ได้นาน 1 ปี และสามารถตอบโจทย์ 3 สไตล์ทรงปากที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่

  1. Sexy KYSSE ทรงปากสายฝอ เพิ่มความอวบอิ่มให้กับริมฝีปากทั้งบนและล่างในสัดส่วน 1:1
  2. Cherry KYSSE ทรงปากกระจับ ริมฝีปากล่างอวบอิ่ม สไลต์เกาหลี คล้ายผลเชอร์รี่
  3. Classy KYSSE เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก อวบอิ่ม ดูสุขภาพดี กลบร่องบนริมฝีปากให้ตื้นขึ้น

ทั้งนี้ฟิลเลอร์รุ่นอื่น ๆ ก็สามารถใช้ฉีดปากได้เช่นกันครับ ปากเป็นตำแหน่งที่ผิวมีการขยับบ่อยมาก ดังนั้นฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ควรมีค่าความยืดหยุ่นสูง คงตัวไม่เสียทรง และมีความเป็นธรรมชาติครับ หมอแนะนำยี่ห้อ ฟิลเลอร์ Juvederm, ฟิลเลอร์ Restylane และ ฟิลเลอร์ Belotero เป็นหลัก ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และความต้องการของคนไข้ในแต่ละเคส

  1. Restylane Kysse ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้นและความอวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ อยู่ได้ 12 เดือน
  2. Restylane Vital Light เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องเพิ่มความหนามาก อยู่ได้ 6-12 เดือน
  3. Restylane Volyme เนื้อนิ่มปานกลาง และมีความยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติไม่เป็นก้อน เหมาะฉีดมุมปาก อยู่ได้ 18 เดือน
  4. Restylane Refyne เนื้อนิ่ม มีลักษณะยืดหยุ่น สามารถเติมเต็มให้ปากอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ อยู่ได้ 12 เดือน
  5. Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง อยู่ได้ 12 เดือน
  6. Juvederm Voluma เนื้อแข็ง แน่น ฟูปานกลาง อยู่ได้นานที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่มและอยู่ได้นาน อยู่ได้ 18 เดือน
  7. Juvederm Volift เนื้อนิ่ม มีความละเอียด และยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้ 12 เดือน
  8. Juvederm Volite เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวปากชุ่มชื้น อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ได้ 8-12 เดือน
  9. Belotero Volume เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก ใช้ฉีดเก็บรายละเอียดได้ดี เหมาะสำหรับเติมเต็มเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปาก อยู่ได้ 12-18 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ อวบอิ่ม ใช้กี่ cc ?

โดยทั่วไป ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 cc ก็เพียงพอสำหรับเติมปากให้สวยงามแล้วครับ ยกเว้นในบางเคสที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มมาก ๆ อาจจะต้องใช้ 2 cc ครับ เพื่อให้ปากเต็มอวบอิ่ม โดยหมอจะช่วยประเมินก่อนและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมให้เป็นรายบุคคลไปครับ

ถ้าให้เปรียบเทียบเห็นภาพเข้าใจง่าย ๆ ฟิลเลอร์ปาก 1 CC หลังถูกฉีดออกมาจากไซริงค์ จะมีขนาดประมาณเหรียญบาท แต่เนื้อก็จะอ่อนนิ่มต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ ตามคุณสมบัติและความเข้มข้นของของฟิลเลอร์แต่ละรุ่นครับ

สำหรับคนที่ต้องการให้ผลอยู่ได้นาน ร่วมกับริมฝีปากอวบอิ่มเซ็กซี่

ฟิลเลอร์ 3 รุ่นนี้ เป็นรุ่นที่หมอแนะนำสำหรับคนที่ต้องการทรงปากอวบอิ่ม ซึ่งเป็นทรงที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันครับ

  1. Juvederm Ultra Plus จะฟูเยอะเหมาะกับคนที่ต้องการปากอวบอิ่มแบบฝรั่ง และอยู่ได้นาน 1 ปี แต่จะคลำเจอเนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ๆ ได้ในช่วง 4-6 เดือนแรก
  2. Juvederm volumaเนื้อจะค่อนข้างแน่น อยู่ได้นานที่สุด 18 เดือน แต่จะคลำเจอเนื้อฟิลเลอร์ได้ในช่วง 1 ปีแรก
  3. Restylane Kysseเนื้อละเอียดแต่มีความคงตัว สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจน อวบอิ่ม ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ

ฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานแค่ไหน ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากโดยทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีด โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนจัด เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุจริงของฟิลเลอร์ได้

หากการดูแลตัวเองหลังฉีดดี หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น ก็จะช่วยรักษาอายุของฟิลเลอร์ไว้ได้นานครับ

หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมจะมีอาการอย่างไร ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ปาก จะต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้นครับ หากพลาดไปฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือสารอื่นๆ ที่ไม่ใช่ HA มาฉีด อาจเกิดอันตรายได้หลายอย่าง ได้แก่

  1. อักเสบ ติดเชื้อ ทั้งผิวหนังชั้นตื้นและชั้นลึก
  2. มีอาการแพ้สารที่นำมาฉีด
  3. ผิวบริเวณที่ฉีดเป็นก้อน ไม่สม่ำเสมอ
  4. มีการผิดรูปของจุดที่ฉีด แก้ไขได้ยากเนื่องจากมักเป็นสารที่ไม่สามารสลายเองได้
  5. ร่างกายจะต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ทำให้เกิดเป็นก้อนกดเจ็บ

ดังนั้นก่อน ฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรระมัดระวังในการเลือกคลินิกและฟิลเลอร์ที่นำมาฉีด เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ ที่สำคัญแพทย์ที่ฉีดควรมีประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการฉีดที่ผิดพลาด ห้ามฉีดกับหมอเถื่อนหรือหมอกระเป๋าเด็ดขาดครับ

จุดสังเกตฟิลเลอร์แท้ยี่ห้อต่าง ๆ

วิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ จะต้องเช็กจากป้ายกำกับภาษาไทย เลข Lot. สติกเกอร์ และต้องสามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก รีวิว

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ?

สำหรับคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะ ฉีดฟิลเลอร์ปาก ที่ไหนดี ควรเลือกจากความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิกเป็นหลัก โดยดูจากเคสรีวิวที่มาใช้บริการจริง แพทย์ที่มีประสบการณ์และราคาที่สมเหตุสมผลครับ

  1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข สังเกตได้จากมีการแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลในจุดที่เห็นได้ชัดเจน มีป้ายชื่อสถานพยาบาล และเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
  2. บรรยากาศของคลินิกไม่ควรอับทึบ ต้องสะอาด โปร่ง สว่าง มีอุปกรณ์ เครื่องมือ ยาและเวชภัณฑ์อย่างครบถ้วน พร้อมใช้ มีห้องหัตถการและพื้นที่กว้างขวาง
  3. สามารถตรวจสอบได้ว่าผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นของแท้ เช็คกับบริษัทนำเข้าได้ ก่อนฉีดควรตรวจดูที่กล่องและขวดบรรจุภัณฑ์ก่อนฉีดทุกครั้ง
  4. แพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถออกแบบทรงปากที่เหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละคนได้ ผลลัพธ์ออกมาสวยงามและเป็นธรรมชาติ
  5. มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือ คลินิกไม่สามารถเข้าไปลบหรือแก้ไขได้ และไม่ควรดูรีวิวที่เป็นรูปภาพเพียงอย่างเดียว ควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอประกอบกัน เพราะสามารถตกแต่งได้ยากกว่า ทำให้เห็นผลจริง ๆ หลังฉีด
  6. คลินิกควรมีช่องทางติดต่อที่สะดวก และมีการนัดติดตามผลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เช่น Line@ Facebook หรือเบอร์โทรศัพท์ หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยสามารถสอบถามแพทย์เจ้าของเคสได้โดยตรง

เพื่อความมั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ 100 % ก่อนฉีดควรให้แพทย์แกะกล่อง แกะหลอดใหม่ ต่อหน้าคนไข้สามารถขอกล่องและหลอดกลับบ้าน หรือนำเลขไปตรวจสอบกับบริษัทที่นำเข้าได้ครับ

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ถ้าอยากจะรักษาผลลัพธ์ให้อยู่นาน ๆ ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู และอยู่ได้นานขึ้น ไม่ควรจับ บีบ นวด บริเวณริมฝีปาก เพราะอาจทำให้รูปปากที่ทำมาเสียรูปได้

หมอได้เขียนบทความเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ไว้ เพื่อความสวยเป็นธรรมชาติสามารถติดตามอ่าน และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดครับ

วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก

  1. ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อน ๆ เพราะอาจเกิดทำให้ปากเกิดอาการบวมหรืออักเสบได้ง่าย
  2. งดการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังหนัก ๆ ที่จะทำให้ปากเสียรูปทรง
  3. ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ การดื่มน้ำมาก ๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น
  4. ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะมีอาการบวมแดงได้เป็นเรื่องปกติครับ จะค่อย ๆ หายไปเองใน 4-5 วัน และเห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะยุบบวมและเข้าที่เป็นทรงครับ

Q&A ฟิลเลอร์ปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันทาลิปได้ ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ใน 12 ชั่วโมงแรก หมอแนะนำให้งดทาลิปสติกก่อน หลังจากนั้นสามารถทาได้ปกติ โดยหลังฉีดฟิลเลอร์ไปอาจยังมีรอยเข็มอยู่ ก็สามารถใช้ลิปสติกทากลบรอยได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อน เกิดจากอะไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วเป็นก้อน เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ถ้าเป็นก้อนในช่วงแรกแล้วค่อย ๆ ดีขึ้นคืออาการบวมปกติหลังฉีด แต่ถ้าเป็นก้อนแข็ง เจ็บ มีอาการอักเสบ ต้องตรวจสอบว่าเป็นเพราะฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์ปลอม หรือหมอไม่มีประสบการณ์เลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม

ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ?

เจ็บครับ แต่ไม่ได้เจ็บมากจนทนไม่ไหว เนื่องจากปากเป็นจุดที่มีเนื้ออ่อนและไวต่อความรู้สึก ทำให้ขณะ ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีอาการเจ็บได้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก กี่วันเข้าที่ บวมกี่วัน ?

โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมหลังฉีด และจะค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วันครับ และการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ครับ

สรุป

  • การฉีดฟิลเลอร์ปาก หากฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีเทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง ประกอบกับใช้ฟิลเลอร์แท้
    (ไฮยาลูโรนิค แอซิด : Hyaluronic Acid) ก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย
  • การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยปรับรูปทรงปากได้หลายทรง ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ เช่น ฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ฉีด
    ฟิลเลอร์ขอบปาก ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ เป็นต้น
  • การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยบำรุงริมฝีปาก ให้อวบอิ่ม ชุ่มชื้น หลังฉีดปากแล้วจะทำให้ปากดูอวบอิ่ม เต่งตึง แก้ไขปัญหาปากแห้ง มีร่องริมฝีปากได้ และช่วยให้ปากดูมีสุขภาพดีขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถส่งรูปมาให้หมอช่วยประเมินรูปปากและปรึกษาปัญหาที่อยากแก้ไขก่อนได้ครับ หมอจะช่วยแนะนำฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสมทรงปาก และความต้องการของแต่ละคน ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ Apex Medical Center ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองค่ะ

แพทย์ Apex สายฉีด Filler